วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

[FIC EXO LUMIN, XIUHAN ] กูรักเขา....หรือเรารักกัน Part -7-

[ FIC EXO LuMin, XiuHan ] : กูรักเขา....หรือเรารักกัน Ft. EXO

Couple: Luhan * Xiumin

Auothor: Kyu samin

 
 
กูรักเขา....หรือเรารักกัน
Part 7
 
 
 
“มึงไปอาบก่อนเลย เดี๋ยวกูนั่งให้หายเหนื่อยก่อน”
 
“มึงเหนื่อยมากมั้ย?”
 
“ทำไม?”
      มินซอกถามกลับในทันทีเพราะ แววตาไอ้เพื่อนนี่มันดูมีประกายชอบกล
 
“เดี๋ยวกูอาบให้”
 
“ขอบใจ....แต่ไม่ต้องเสือ ก”
         มินซอกของเราช่างปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาดและแสนเย็นชา แต่มีหรือที่อีกคนจะสนใจ
 
“หมิน วันนี้มึงเหนื่อยก็เพราะกู เจ็บก็เพราะกู มา! วันนี้กูจะดูแลมึงจนกว่าจะเข้านอนเอง”
        ท่าทางที่กระตือรือร้นของลู่หานช่างเป็นอะไรที่ผิดหูผิดตา และแม้เขาจะมองเห็นความจริงใจที่มีอย่างเหลือล้น แต่มินซอกก็ยังเลือกที่จะปฏิเสธ
 
“ไม่ต้องงงงงง ไปให้ไกลกูเลย”
            ไม่ทันละ ไอ้เชี่ยลู่นี่แม่ ง ไม่ฟังกูเลย =___= ถอดเสื้อกับกางเกงกูไวอย่างกับนักกีฬาเปลื้องผ้าแห่งชาติ.........
 
           คนตัวเล็กที่เหลือเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ก็ได้แต่ถอนหายใจพรืด พยายามทำใจเพราะรู้ว่าถ้าลู่หานจะทำซะอย่างอะไรก็ขัดใจมันไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเดินตามแรงจูงแต่โดยดี เพื่อมุ่งหน้าไปยังที่ๆจะช่วยชำระล้างร่างกาย
 
          ส่วนคนที่กำลังเต็มไปด้วยความตั้งใจ เขาพยามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ได้กล่าวไว้ ด้วยการนำทางไปยังห้องน้ำที่พวกเขาชอบใช้ด้วยกันมากที่สุด นั้นก็คือในห้องนอน ผนังห้องน้ำที่ทำด้วยกระจกใส เครื่องอุปโภคที่ครบครันทันสมัย และจัดอยู่ในตำแหน่งและสัดส่วนที่เหมาะสมที่คนสองคนจะเข้าไปใช้เวลาด้วยกัน
 
 “มาๆ นั่งนี่เลยมึง”
           คนที่เดินนำเข้ามา จัดการดึงฝาปิดชักโครกลงเพื่อเป็นที่นั่งเฉพาะกิจให้กับเพื่อนตัวเล็กของเขา พร้อมทั้งกดไหล่มินซอกให้นั่งลงในตำแหน่งที่เขาได้จัดสรร มินซอกก็ได้แต่ยอมตามไม่ปริปากพูดอะไรสักคำแล้วเฝ้ามองดูอีกคนว่าคิดจะทำอะไรต่อไป
 
“หัวมึงเหม็นชิบ หาย ตอนอยู่ข้างล่าง ดมหัวมึงนี่กูขมคอเลยเนี้ย”
          ลู่หานไม่พูดเปล่า ชักสีหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาเหม็นแค่ไหน มินซอกที่เห็นเต็มสองตาก็ แสยะสีหน้าใส่บ้างก่อนจะพูดในส่วนของเขา
 
“อย่างกับตัวมึงหอมนักละ เหม็นสาบชิบหาย คอนี่อย่างเหนียวเลยกดหน้ากูไปถูอีก”
 
“แล้วทำไมไม่ผลักกูออกละ”
        ลู่หานถามกลับด้วยความรู้สึกน้อยใจอยู่เล็กๆ พูดแบบนี้เขาก็เสียใจเป็นเหมือนกันนะ
 
“กูกำลังงงอยู่ อีกอย่างกูรับได้ กลิ่นมึงอะ”
          ไม่รู้ทำไม แต่ลู่หานกลับรู้สึกร้อนขึ้นที่ใบหน้าเมื่อได้ยินคำตอบ.........เขาเองก็เหมือนกัน ถึงจะบอกว่าเหม็นแต่มันมีกลิ่นเฉพาะตัวของอีกคนปนอยู่ เขาจึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด กลับกันซะอีกที่เขาดันรู้สึกชอบกลิ่นนั้น.........กลิ่นของมินซอก ไม่ว่าจะผสมกลิ่นเหงื่อ กลิ่นสบู่ หรือกลิ่นแป้ง เขาก็ชอบที่จะได้กลิ่นนั้น
 
“หมิน”
          ลู่หานเอ่ยเรียกเบาๆแทรกเสียงน้ำกระเซ็น ขณะที่มือหนึ่งก็กำลังถือฝักบัวรดเส้นผมของเพื่อนตัวเล็ก อีกมือก็ช่วยลูบขยี้ให้สายน้ำกระจายไปทั่วหนังศีรษะ ส่วนคนที่นั่งก้มหน้ายื่นหัวออกมาให้อีกคนได้ดูแลเส้นผมให้นั้น ก็ตอบรับด้วยเสียงสั้นๆ เพราะกลัวน้ำจะไหลเข้าปาก
 
“หืม?”
        
“กูอาบน้ำให้มึงครั้งสุดท้ายเมื่อไร”
          คนสูงกว่าถามขึ้นเมื่อเปลี่ยนจากถือฝักบัวเป็นขยี้เส้นผมให้มินซอกด้วยแชมพู คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองคนถามอย่างสงสัย เขาใช้เวลานึกเพียงไม่นานก่อนจะตอบ
 
“เทอมที่แล้ว....ตอบแทนที่กูสละเบอร์สาวให้มึง ทั้งที่เขาเอามาให้กู”
       
“เอ่อวะ ใช่ๆ”
 
“ใช่เฮี้ยอะไรของมึง? ได้เขาแล้วก็ทิ้ง เหี้ ยสัดๆ”
        มินซอกไม่พลาดทิ้งท้ายประโยคด้วยคำด่าที่ไม่แม้แต่จะสะกิดจิตสำนึกของอีกคน แต่มันกลับรื้อฟื้นเรื่องราวที่กลับมาเล่าอีกครั้งด้วยความตลกโปกฮา
 
“ก็แม่ ง นอนกับกูแต่ร้องหามึง อ่า~~ พี่มินซอกคะ ฉันรักพี่คะ งื้อออพี่มินซอกกก ”
          นอกจากจะเล่าได้อย่างออกรสออกชาติแล้ว ลู่หานยังเลียนเสียงกระเส่าของหญิงสาว บิดตัวไปมาเหมือนอย่างที่เขาพอจะจำได้ในคืนนั้น ซึ่งนั้นเรียกทั้งร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนที่หัวเต็มไปด้วยฟองแชมพู
 
“จริงดิ ฮ่าๆๆๆ ”
          มินซอกที่กำลังยิ้มร่าอย่างสนุกสนานและมันทำให้ห้องน้ำนี้ดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นมา อีกคนเลยพยายามสรรสร้างความเฮฮาต่อ เพราะเขาอยากเห็นมินซอกมีความสุขแบบนี้ไปนานๆ
 
“เอ่อดิ กูไม่รู้เลยว่านอนกับหล่อนหรือนอนกับมึงกันแน่ ชิบหายมีแต่ชื่อมึงทั้งคืนอะ ฮะๆๆๆ”
 
“เพราะงั้นมึงเลยทิ้งเธอ”
 
“ผิด!!! ยัยนั้นทิ้งกู ก๊ากกกกๆๆๆๆ”
 
“ไอ้เฮี้ยยยย ฮ่าๆๆๆ มึงนี่แม่ ง เฮ๊อะๆๆ ทำไมวะ?”
 
“เพราะกูเรียกแต่ชื่อมึง”
            แค่เพียงประโยคเดียว บรรยากาศที่เคยสดใสกลับอึมครึมขึ้นมาทันที รอยยิ้มและเสียงหัวเราะจางหายไปจากคนทั้งคู่ สองสายตาที่เคยสบมองกันด้วยความสนุกสนานตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นจริงจังและมากด้วยความหมายและความสงสัย มินซอกเลือกที่จะเป็นคนหลบสายตาก่อน แต่อีกคนกลับดึงให้เขาลุกขึ้นยืน พร้อมทั้งดึงบ๊อกเซอร์ของเขาลงจนเหลือเพียงกายเปลือยเปล่า
 
          ลู่หานไม่ยอมพูดอะไรอีกเลยหลังจากนั้น เขาเพียงแต่ออกแรงดันมินซอกให้อยู่ในตำแหน่งที่น้ำจากฝักบัวจะไหลตกลงมากระทบ แล้วจึงเปิดวาวให้น้ำเย็นมันไหลออกมา........
 
           .เมื่อจัดแจงให้คนตัวเล็กเปียกน้ำรอแล้ว ลู่หานจึงหันมาปลดเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง เขาถอดมันออกมาได้ก็โยนๆไว้ที่มุมประตูจนเหลือแต่ร่างขาวไร้อาภรณ์ ก่อนจะแอบชำเลืองมองอีกคนที่ยังคงยืนนิ่งปล่อยสายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกายไปเรื่อยๆ
 
           ความเงียบยังคงดำเนินไป มีเพียงเสียงจากสายน้ำเท่านั้น หากแต่ไร้เสียงของการสนทนา ลู่หานซึ่งเดินกลับมาหาเพื่อนตัวเล็กแล้วในตอนนี้ เขาพยายามจะสบตากับมินซอก แต่อีกคนก็เอาแต่ก้มหน้า
 
            ดังนั้นลู่หานที่ยังไม่บรรลุในวัตถุประสงค์ที่ตั้งเอาไว้ เขาจึงสานต่องานของตัวเองด้วยการดันตัวมินซอกประชิดผนัง แล้วพาตัวเองไปยืนในตำแหน่งนั้นแทนมินซอกเพื่อทำตัวเองให้เปียกบ้าง ก่อนจะเอื้อมมือกดสบู่เหลวแล้วถูไปมาบนฝ่ามือจนเกิดฟองพร้อมที่จะใช้งาน คนตัวสูงกว่าสบมองคนตรงหน้าอีกครั้ง ซึ่งมินซอกก็ยังเอาแต่ยืนนิ่ง ก้มหน้ามองตีนอยู่อย่างนั้น
 
          ตีนมันน่ามองตรงไหน แทนที่จะเงยหน้ามามองกัน ว่าแล้วคนที่อิจฉาแม้กระทั้งอวัยวะที่เรียกว่า ตีน ก็จัดการพาเท้าของตัวเองเข้าสู่ระยะการมองเห็นของอีกคน ด้วยการเหยียบปลายเท้าของเพื่อนด้วยปลายเท้าของเขาทั้งสองข้าง แน่นนอนว่ามันไม่หนักและก็ไม่ได้ทำให้มินซอกรู้สึกเจ็บ ลู่หานแค่อยากให้มินซอกรับรู้สัมผัสจากเขาก็เท่านั้น แต่ดูเหมือนมันจะได้ผลดีเกินคาด เมื่อคนตัวเล็กยอมละสายตาจากเบื้องล่างแล้วเงยขึ้นบนสบตากับอีกคนเหมือนจะถามว่า อะไรของมึงเนี้ย? ลู่หานที่ไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป เขาจึงรีบกับพูดกับอีกคนทันที
 
“กูถูสบู่ให้นะ”
          ไม่รอได้ยินความยินยอมจากอีกฝ่าย ลู่หานก็เริ่มละเลงฟองสบู่บนลำคอเป็นอย่างแรก มือหนาค่อยๆถูวนเป็นวงกลมอย่างใจเย็น เพราะรู้ว่ามินซอกเป็นคนรักความสะอาดและมักจะถูสบู่เป็นวงแบบนี้ทุกครั้งที่อาบน้ำ เขาบรรจงสัมผัสผิวขาวผ่านฟองสบู่นี้ทุกตารางผิว ก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมาที่หน้าอกซึ่งมันยังมีรอยช้ำเป็นวงกว้าง ถึงมินซอกจะเคยบอกว่าไม่เจ็บแล้วก็ตาม แต่ลู่หานก็พยายามลูบไล้มันอย่างเบามือที่สุด
 
“ทำไมถึงเรียกชื่อกู”
        คำถามนี้ดังขึ้นทำลายความเงียบที่เขาเคยพยายามรักษาไว้ แต่เพราะมันทั้งอึดอัดและทำให้เขาสับสน หลังจากที่ครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งได้ยินจากปากเพื่อนรัก สุดทายเขาก็ทนเก็บความอึดอัดและสงสัยนี้ไว้ไม่ไหว เขาต้องสติหลุดแน่ๆถ้าลู่หานยังทำอะไรแบบนี้อยู่ และถ้าเขาไม่ได้เอ่ยปากถามออกไป
         
        ส่วนคนถูกถามนั้นกลับยกยิ้มเมื่ออีกคนยอมปริปากพูด เขาไม่รู้สึกลำบากใจสักนิดที่จะพูดเรื่องนี้ แต่ที่เงียบและไม่พูด เพราะแค่อยากให้มินซอกกล้าที่จะถามเขามากกว่า......... เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกแล้วละก็ มินซอกแทบจะไม่ยอมพูดหรือแสดงอะไรออกมาเลย นี่จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ว่าแล้วจึงใช้ฝ่ามือประครองโครงหน้ามินซอกให้เงยขึ้นเพื่อสบตากับเขา นิ้วโป้งป้ายฟองสบู่ลงบนปลายจมูกเพื่อนเพราะนึกเอ็นดู ก่อนจะเกลี่ยเนื้อแก้มกลมไปมาอย่างลืมตัว
 
“เพราะกูคิดถึงแต่มึงละมั้ง........”
 
“......................................”
 
“คืนนั้นกูปล่อยให้มึงนอนคนเดียว เหงารึเปล่า?”
         คำถามที่มาพร้อมเสียงนุ่ม ไม่คุ้นหูนี้ ทำให้มินซอกเลือกที่จะพาบรรยากาศไปในทางอื่นด้วยการตอบแบบกระชากเสียงของเขา
 
“เหงาห่า!! อะไรละ กูยังไม่ทันเหงามึงก็กลับมาแล้ว”
           นอกจากจะเบือนหน้าออกจากฝ่ามือที่แสนจะรุงรังนี้แล้ว มินซอกยังหันมองทางอื่นอีกด้วยก่อนจะตอบ
 
           ใช่......คืนนั้นเขาไม่เหงาหรอก เพราคืนนั้นเขาเอาแต่นั่งคิดเรื่องของลู่หานวนไปวนมาไม่ยอมหยุด คืนนั้นเขาไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ ไม่ซิ ต้องเรียกว่า ข่มตาหลับไม่ลงต่างหาก................. แต่คืนนั้นลู่หานก็กลับมาตั้งแต่ยังไม่ทันเช้า กลับมาถึงก็อาบน้ำทันที แล้วพวกเขาจึงพากันเข้านอนพร้อมกัน โดยที่วันนั้นก็พาขาดเรียนไปโดยปริยาย
 
         จำได้ว่าหลังจากคืนนั้นเขากับลู่หานแทบจะไม่ได้อาบน้ำด้วยกันเลย เพราะลู่หานไม่อยากให้เขาเห็นรอยจูบที่ผู้หญิงคนนั้นทำไว้บนตัว แต่สุดท้ายเขาก็แอบเห็นมันอยู่ดี แต่นั้นมันก็แค่อาทิตย์เดียว พอรอยนั้นจางหายไอ้ลู่หานก็กลับมาเบียดเบียนถูสบู่จากตัวเขาเหมือนอย่างเคย
 
        แต่อยู่ดีๆมินซอกที่กำลังคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยก็หลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง และมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อฝ่ามือหนาๆของไอ้เพื่อนตัวดี ลูบไล้วนเวียนอยู่แถวใต้สะดือ อาบน้ำด้วยกันก็บ่อย เอาตัวถูกันก็เคยมาแล้วค่อนจะทำเป็นประจำด้วยซ้ำ แต่ไม่เคยเอามือมาลูบๆกันอย่างนี้ซะที นั้นเลยทำให้รู้สึกแปลกๆอย่างนี้เหรอ? แต่สิ่งที่มินซอกกำลังคิดว่าแปลกคงจะดูเล็กน้อยลงไป เมื่อสัมผัสใหม่ที่เข้าจับกุมเขาอยู่ขณะนี้
 
“มึงจะทำอะไร?”
         มินซอกถามเสียงเรียบ เมื่อเขาก้มลงดูและเห็นว่าลู่หานกำลังหยิบงวงของเขาขึ้นมาถือ
 
“กูจะล้างให้”
        สีหน้าแลดูใจดี และแสนจะมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ แต่ไม่คิดจะถามอีกคนบ้างหรืออย่างไรว่าเขาต้องการหรือไม่ ไม่ว่าอะไรก็จะทำตามใจไปเสียทุกอย่าง
 
“ไปล้างให้เตี่ยมึงก่อนไป๊ งวงกู กูล้างเองได้”
        ว่าแล้วก็ดึงงวงคืน ของใช้ส่วนตัวมันควรจะดูแลเองป๊ะ? ถึงจะเคยล้างด้วยกันบ่อยๆก็เถอะ แต่มันใช่เรื่องที่ไหนจะมาล้างให้กัน
 
        มินซอกส่ายหัวอย่างเอือมละอาพร้อมทั้งเบี่ยงตัวออก แล้วเดินมายืนใต้สายน้ำแทน ก่อนจะค่อยๆรูดหนังหุ้มปลายงวงออก เผยให้เห็นแท่งเนื้อสีชมพูผิวใสแวววาวจากการเคลือบของสารหล่อลื่นซึ่งร่างกายผลิตขึ้นเอง เขาถูปลายงวงเบาๆเพื่อทำความสะอาดปลายท่อปัสสาวะและสิ่งสกปรกอื่นรอบๆ และเพราะการทำความสะอาดในครั้งนี้อยู่ภายใต้บรรยากาศที่ไม่มีเสียงของลู่หาน มินซอกจึงเงยหน้าเหล่มองอีกคนที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งกำลังจ้องมาที่เขาไม่วางตา
 
“มองเหี้ ยอะไร? มึงอยากล้างให้กูมากรึไง”
         ลู่หานไม่ตอบแต่กลับทำสีหน้าที่นิ่งเรียบไม่แสดงออกถึงอะไร อีกทั้งพาตัวเองใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะจรดอยู่ที่ใบหูของเพื่อนที่ตัวเล็กกว่า
 
“กูจะล้างให้อย่างดีเลย..........แล้วจะลงลิ้นให้ด้วย ถ้ามึงยอมเป็นเมียกู”
       เจ้าของข้อเสนอไม่พูดเปล่า ยังใช้มือลูบไล้สะโพกกลมอย่างอุกอาจ ในขณะเดียวกันก็เล็มเลียใบหูขาวข้างที่ไม่ได้ถูกการกระแทกอย่างสนุกปาก
 
        ส่วนมินซอกที่ตกเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ตอนนี้ เขาก็เริ่มที่จะเป็นผู้ลงมือกระทำบ้าง ด้วยการลูบแผ่นอกของลู่หานอย่างใจเย็น ก่อนจะค่อยๆเลือนต่ำลง และหยุดอยู่ที่ดุ้นงวง มินซอกยิ้มหวานให้อีกคนเมื่อมีโอกาสได้สบตา ลู่หานเองก็ยิ้มกว้างเมื่อคนตัวเล็กกำลังสัมผัสงวงให้กับเขา แต่ฝันหวานได้เพียงไม่นานรอยยิ้มหวานๆนั้นก็แปลเปลี่ยน มินซอกที่เคยสัมผัสงวงให้อย่างอ่อนโยนย้ายไปกอบกุมถุงไข่และออกแรงบีบมัน
 
“ไข่กูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกูกู”
          ลู่หานร้องลั่น พรางโอบอุ้มถุงไข่ด้วยสองมือ ราวกับว่ากำลังจะสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิต  มินซอกที่เห็นดังนั้นก็ได้แต่เบะปากใส่ ไม่คิดจะสงสารหรอกนะ แต่หมั่นไส้ไอ้ลู่มันมากกว่า
 
“สัด สำออยละมึง กูไม่ได้บีบแรงเลย”
            มินซอกว่าให้ ส่วนคนถูกว่านั้นเคยยอมที่ไหน เถียงซิอย่างนี้ต้องเถียง มึงไม่ลองบีบไข่ตัวเองมึงไม่รู้หรอกไอ้หมิน ว่ามือมึงหนักแค่ไหน
 
“สำออยพ่อมึงดิ! เหี้ ยเอ้ย ไข่กูแตกแล้วมั้งเนี้ย”
 
“ไข่มึงไม่แตกหรอก หัวมึงซิ่จะแตกก่อน เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”
 
“กูแค่ล้อเล่นนิดเดียวเองสัด”
 
“แต่กูไม่ตลกด้วย อยากระเบิดประตูหลังกู เดี๋ยวกูแถมทองให้ด้วยเอาปะละ”
 
“เอ่อๆ กูไม่เล่นแล้ว”
           ถึงลู่หานจะบอกไปแบบนั้น แต่แผนร้ายใหม่ๆก็เกิดขึ้นเสมอ เพราะมินซอกเป็นคนที่น่าแกล้ง และเขาก็ชอบแกล้งมินซอกมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ และทุกๆครั้งเขาจะโดนมินซอกเอาคืนเสมอ หนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่ความปราณีที่มินซอกจะมีให้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังชอบแกล้งเพื่อนตัวเล็กนี่อยู่ดี
 
          เมื่อเห็นว่ามินซอกกำลังเผลอ มัวแต่ถูสบู่ในส่วนอื่นๆ ลู่หานก็จัดการเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นในระดับสูงสุด ทำเนียนเป็นถอยออกมายืนถูสบู่รอให้เครื่องปรับอุณหภูมิน้ำให้ได้ในระดับที่ต้องการ เมื่อได้จังหวะก็หยิบฝักบัวขึ้นมาถือประดุจว่านี่คืออาวุธร้ายมากด้วยแสงยานุภาพที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปราบแมวเหมียวตัวโต 
       
“เหี้ ยๆ ร้อน! ไอ้เหี้ ยลู่”
 
“ฮ่าๆๆ กูจะล้างตัวให้มึง”
          บอกเพียงเท่านั้นก็จัดการยิงน้ำร้อนใส่เพื่อนตัวเล็กต่อ  
 
“ไอ้สัดน้ำเข้าหูกู”
           มินซอกร้องบอกพรางใช้มือกุมใบหูเพื่อปกป้องช่องหูของเขาจากน้ำร้อน ก่อนจะค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นเปียก ลู่หานที่เห็นดังนั้น เหมือนหัวใจของเขาจะหยุดเต้น ฝักบัวในมือถูกทิ้งอย่างไม่ใยดี เขารีบตรงมาที่มินซอกซึ่งกำลังงอตัวบีบศีรษะด้วยสองมือเหมือนคนกำลังเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมาน
 
“หมินมึงเป็นไร? กูขอโทษ มึงเจ็บตรงไหน มึงเป็นอะไรมึงบอกกูดิ!
           ตอนนี้ลู่หานแทบจะทำอะไรไม่ถูก เขาทั้งล้นลานและสติแทบจะไม่อยู่กับตัว เมื่ออีกคนเอาแต่นอนงอตัว บิดไปมาอยู่บนพื้นอีกทั้งยังใช้มืออุดหูจนตัวสั่น ภาพนั้นมันทำให้ลู่หานกลัว กลัวเหลือเกิน จนเขาต้องเข้าไปประคองกอดเพื่อนตัวเล็กเอาไว้แน่น ได้แต่หวังว่ามินซอกจะทรมานน้อยกว่านี้ได้บ้าง
 
“เรื่องแค่นี้ต้องร้องไห้ด้วยเหรอ คนแมนอะไรของมึง ไอ้ขี้แยละซิไม่ว่า”
           มินซอกแซว เมื่อเขาหยุดแสดงอาการทั้งหลายก่อนหน้านี้ แล้วเห็นว่าลู่หานกำลังกอดเขาไว้ซะแน่นอีกทั้งยังร้องไห้จนจมูกแดงอีกด้วย
 
“มึงไม่เป็นไรแล้วเหรอ?”
 
“ถ้ากูจะเป็นอะไรละก็ คงจะเป็นคนที่ฉลาดกว่ามึงนั้นแหละ”
           คนตัวเล็กกว่าตอบ ก่อนจะขยับตัวในอ้อมแขนของลู่หานเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าตอนนี้เขาไม่เป็นอะไรแล้ว และลู่หานควรจะปล่อยเขาสักที แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกลู่หานดึงเข้าไปซบอก ถึงจะงงๆแต่มินซอกก็เข้าใจเพื่อนคนนี้ดี
 
“ไม่เป็นเหี้ ยอะไรก็ดีแล้ว คราวหลังมึงเล่นมุขอื่นเหอะ มุขแบบนี้กุไม่ชอบเลย”
 
“เออ”
        มินซอกตอบรับสั้นๆก่อนจะผลักอกของอีกคนออก เขามองหน้าลู่หานที่ยังคงไม่ยอมเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มและจมูกแดงนั้นด้วยความนึกขำ ก่อนจะลงมือเช็ดคราบน้ำตาเหล่านั้นให้เอง และพาเพื่อนตัวโตกว่าไปล้างสบู่ด้วยกันเพื่อยุติการอาบน้ำในครั้งนี้เสียที  
 
 
……………………………………กูรักเขาหรือเรารักกัน…………………………………………………
 
 
        อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเข้าสู่เวลาของวันใหม่ เด็กนักศึกษาที่ควรจะอยู่ในหอพักเพื่อเตรียมตัวนอนเพราะวันรุ่งขึ้นยังต้องไปเรียน แต่คงไม่ใช่กับโอเซฮุน เขายังคงเดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย เฉกเช่นเดียวกับในหัวเขาที่กำลังคิดถึงเรื่องวันนี้ไปเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น แค่เพียงวันเดียวก็มีเรื่องให้หนักใจมากมาย ที่หนักสุดคือเขาอยากรู้ว่ารุ่นพี่มินซอกเป็นอย่างไรบ้าง ภาพใบหน้าขาวซีดหมดสติในอ้อมแขนเขาช่างเป็นอะไรที่ติดตา แต่ภาพที่รุ่นพี่คริสกำลังสัมผัสแก้มพี่มินซอกก็เป็นอะไรที่ติดตาไม่แพ้กัน
 
        เขารู้ว่าเขาไม่มีสิทธ์ทำอะไรแบบนั้น แต่เขาก็ห้ามความคิดของตัวเองไม่ได้ ความอิจฉามันมีแต่จะยิ่งเพิ่มทวีคูน ไม่ว่าจะเห็นใครอยู่ใกล้พี่มินซอก เขาก็อยากจะไปยืนตรงนั้นเสียจริงๆ แค่สักครั้งที่พี่มินซอกจะมองมาที่เขาอย่างตั้งใจ และรับรู้ว่ายังมีเขาอีกคนที่อยากจะยืนอยู่ข้างๆ
 
“เห้ออออออ”
        เป็นอีกครั้งที่เซฮุนถอนหายใจแบบนี้ เขามองไปรอบกายก็พบว่าสถานที่นี้มันคุ้นตา ใช่....ข้างหน้าเป็นหอของพักแบคฮยอนเพื่อนสนิทอีกคนของเขา ที่สามารถคุยได้ทุกเรื่อง ถึงตอนนี้จะไม่ได้เรียนที่มหาลัยเดียวกันแต่พวกเขาก็มัจจะติดต่อกันเสมอ
 
       เซฮุนตัดสินใจเดินขึ้นไปยังอพาร์ทเม้นท์ที่แสนจะคุ้นเคยนี้ เขาเดินไปตามทางอย่างช้ำชองเพราะมันเคยเป็นแหล่งกบดานหลังเลิกเรียนเมื่อสมัยอยู่มัธยมปลาย ขายาวมุ่งตรงสู่ห้องพัก  206 อย่างไม่ลังเลก่อนจะเคาะที่ประตู และเพียงไม่นานบานประตูตรงหน้าก็เลื่อนออก พร้อมกับการปรากฏตัวของเพื่อนรัก
 
“ไงมึง”
         เซฮุนทักทาย ก่อนเตรียมจะเดินหน้าเพื่อเข้าไปในห้องอย่างที่เคยทำ แต่แบคฮยอนที่ดูสีหน้าไม่สู้ดีนักกลับพาตัวเองเดินออกมาจากห้องแทนและปิดประตู
 
“มึงมีอะไรรึเปล่า? มาซะดึกเลย”
         แบคฮยอนถาม เมื่อพบว่าคนที่มาหาคือเซฮุนเพื่อนสนิท แต่ทำไมวันนี้มาดึกนักละ
 
“กูอยากปรึกษามึง เราเข้าไปคุยในห้องได้มั้ย?”
 
“กูอยากช่วยมึงนะ แต่วันนี้กูไม่สะดวกวะ”
          แบคฮยอนตอบด้วยท่าทางลำบากใจ ก่อนจะก้มหน้าลงเพราะละอายที่ต้องปฏิเสธการช่วยเหลือในครั้งนี้ แต่วันนี้เขาไม่สะดวกจริงๆ เซฮุนที่เห็นท่าทางลำบากใจนั้น เขาก็พอจะเข้าใจ แต่แล้วก็เหลือบเห็นรองเท้าหนังสีดำคู่ใหญ่ที่ดูยังไงมันก็ไม่ใช่ขนาดที่แบคฮยอนจะใส่ได้ถอดไว้รวมกับรองเท้าคู่อื่นๆของเจ้าของห้อง
 
“มึงมีแขกเหรอ?”
         เซฮุนถามเพื่อตอบความสงสัยของตัวเอง และแบคฮยอนก็ยอมตอบเพราะพวกเขามักจะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้อีกคนฟังอยู่เสมอ
 
“อื่อ........มึงกลับไปก่อนไว้พรุ่งนี้กูจะโทรหานะ”
 
“ได้ๆ งั้นกูกลับก่อนนะ”
         เซฮุนบอกลาพร้อมทั้งรอยยิ้มเพราะไม่อยากให้แบคฮยอนคิดมาก อีกอย่างเขามาดึกขนาดนี้ก็สมควรถูกปฏิเสธ แต่แขกของแบคฮยอนก็อยู่ดึกเหมือนกัน อยากรู้จริงๆว่าใคร ดูจากรองเท้าน่าจะเป็นผู้ใหญ่หน่อยรึเปล่า เอาไว้ถามพรุ่งนี้ก็คงไม่สายหรอก
 
         ส่วนแบคฮยอนเองก็กลับเข้ามาในห้องพักเก่าๆที่ใช้ซุกหัวนอนมาหลายปีของเขา ที่นี่ไม้ได้สะดวกและหรูหรา แต่ที่ทนอยู่เพราะราคาถูกและสนิทกับเจ้าของอพาร์ทเม้นท์พอควรที่พอจะผลัดจ่ายค่าห้องได้บ้าง เขามาอยู่ที่นี่คนเดียวตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย นั้นเพราะเขาเป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัดและฐานะทางบ้านก็ไม่ได้สะดวกสบายมากพอที่จะเช่าห้องพักดีๆ ดังนั้นเขาจึงต้องทำงานพิเศษไปด้วย
 
“คุณจะกลับแล้วหรอครับ”
     แบคฮยอนพูดขึ้น เมื่อเดินเข้ามาและพบว่าแขกของเขากำลังแต่งตัวใส่เสื้อผ้า
 
“ดูนายยุ่งๆนะ วันนี้ฉันกลับก่อนดีกว่า”
       เสียงทุ้มใหญ่ตอบ พร้อมกับจัดปกเสื้อให้เข้าที่เป็นอย่างสุดท้าย ก่อนคว้ากระเป๋าทำงานขึ้นมาถือแล้วจึงเปิดมันเพื่อหยิบบางสิ่ง อย่างที่เคยทำทุกครั้งก่อนจะออกจากห้องนี้
 
“แต่ว่าวันนี้เรา”
 
“เงินอยู่นี่นะ”
       ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่บอก พร้อมกับวางเงินจำนวนหนึ่งไว้บนเตียงเหมือนทุกๆครั้ง ก่อนจะเดินผ่านเด็กหนุ่ม เพื่อออกจากห้องโกโรโกโสนี้
 
“เดี๋ยวครับ”
       แบคฮยอนเรียกอีกคนไว้พร้อมทั้งวิ่งเข้ามาหาก่อนที่อีกคนจะถึงประตู เมื่อแบคฮยอนพาตัวเองมาประชิดอีกคนได้ เขาจึงเกาะลำแขนใหญ่เพื่อเป็นหลักในการทรงตัว พร้อมทั้งเขย่งปลายเท้า แล้วจึงกดจูบที่แก้มของคนที่กำลังจะจากไป
 
“กลับดีๆนะครับ”
       การกระทำที่อ่อนหวานและแสนน่ารัก จากเด็กหนุ่มที่หน้าตาน่ารักเหมือนหมาน้อยนี้เป็นใครก็คงต้องเคลิบเคลิ้มกับมัน แต่บุรุษร่างใหญ่กลับมีเพียงสีหน้านิ่งเรียบเฉยไร้อารมณ์ตอบกลับมาแทน จากนั้นเขาจึงพาตัวเองออกมาและมุ่งตรงกลับบ้าน
 
To be continue……………………………100%…………………………………………..
 
สำหรับใครที่ชอบเล่นแท๊กในทวิต ฟิคเรื่องนี้ #กูรักเขาหรือเรารักกัน ไม่ใช่#กรขหรรก นะคะเผื่อฉันจะไปส่อง คุคุ หรือไปคุยกันก็ได้คะ โอเคไปจริงๆแล้ว แล้วพบกันใหม่คะ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฉัน