วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สารบัญ Fiction By Kyusamin



 
 
สารบัญ Fiction By Kyusamin
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
  

[ SF LuMin Exo Bus Love 799 ] รถเมล์รักสาย 799 :: อยากให้เรื่องนี้ไม่มี NC : Part V







อยากให้เรื่องนี้ไม่มี NC

 

Part V

 
 

“คุณเมาหรอครับ?”

 “ถ้าฉันเมาแล้วมันยังไง”

“คุณอาจกำลังสับสน ดูดีๆซิครับ ผมไม่ใช่คุณจินนา”

“ยัยนั้นเกี่ยวอะไรด้วย....”

“....กะ...ก็....>/////<....”

“ถ้าฉันบอกว่าเมาแล้วทำต่อได้ใช่มั๊ย?”

ลู่หานไม่รอคำตอบ และไม่รีรอที่จะเข้าหากลีบปากอิ่มสีหวานนุ่มละมุนลิ้น พร้อมกันนั้นเขาสอดมือข้างถนัดโอบเอวเด็กหนุ่มให้เข้ามาประชิดจนแนบสนิท แล้วใช้มืออีกข้างประคองโครงหน้าสวยให้แหงนรับจูบของเขาได้อย่างเต็มที่

จากที่มีเพียงกลีบปากเจ้าของห้องเท่านั้นที่ขยับและพยายามขบเม้นเนื้อริมฝีปากอิ่ม ขณะนี้แขกมาผู้เยือนได้เรียนรู้แล้วว่าควรทำเช่นไรกับหัวใจที่เต้นกระหน่ำ จึงเริ่มลอกเรียนแบบและนั้นทำให้รสชาติของการบดขยี้ กลายเป็นสอดประสานและเรียกว่าจูบได้อย่างเต็มภาคภูมิ

หากแต่การจูบคงเหมือนการเสพติดชนิดหนึ่งที่ไม่เคยพอ หรือใจของพวกเขากันแน่ที่เรียกร้องกันและกันมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น ในเมื่อการขบเม้นริมฝีปากยังไม่อาจให้พวกเขาบรรเทาความอยากกระหาย ความต้องการที่เพิ่มทวีและการได้สัมผัสเช่นนี้ มันมีแต่เพิ่มเชื้อให้พวกเขาทั้งคู่กล้าที่จะเข้าหากันยิ่งขึ้น

จนหลงลืมบางสิ่งไม่ทันได้นึกถึงบางอย่าง เมื่อเด็กตีสเลทเปิดปากให้คุณผู้กำกับได้ล่วงล้ำอย่างเต็มอกเต็มใจ เรียวลิ้นไม่เคยหยุดนิ่งดุจสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวตนเองได้อย่างอิสระ ปลายลิ้นเปรียบเสมือนมือที่เข้าไปลูบไล้ในทุกๆส่วนที่สามารถไปถึง ทุกๆส่วนที่กระตุ้นเร้าให้พวกเขาอยากที่จะทะยานไปได้ไกลกว่านั้น ทว่าลมหายใจเป็นอุปสรรค์หนึ่งที่ทำให้พวกเขาต้องหยุดมัน และผละออกมายืนหอบหายใจ

สำหรับมินซอกนี้อาจไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ หากแต่มันเป็นสัมผัสที่เขาห่างหายไปนานมาก และเมื่อได้สัมผัสมันอีกครั้ง เขารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและกระปี้กระเปล่า แต่รสจูบอันเร่าร้อนนี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่หลอมละลายเขาจนหมดแรงยืน ถึงกับต้องทรุดตัวนั่งกองอยู่กับพื้น ราวกับถูกคุณลู่หานดูดพลังงานไปอย่างไงอย่างงั้น

แต่กระนั้นลู่หานก็ไม่ยอมปล่อยเด็กหนุ่มให้ห่างกาย เขาพับขานั่งยองที่ตรงหน้า แล้วประคองแก้มเห่อแดงของอีกคนด้วยสองมือ ขณะที่จมูกสูดเอาอากาศเข้าปอด ริมฝีปากก็เหมือนจะรู้งานจูบซับเม็ดเหงื่อที่หน้าผากมนให้อย่างอ่อนโยน อนึ่งเสมือนการแสดงความเป็นเจ้าของ

 “มีคนบอกนายมั๊ยว่าไม่ควรผูกจุกแอ๊บเปิ้ล”

คำถามของลู่หานฉุกให้มินซอกต้านความอายของตัวเอง ด้วยการช้อนตาขึ้นมองคุณผู้กำกับที่ยังคงใช้สองมือโอบกุมข้างแก้มของเขาไว้ไม่ห่าง ซึ่งนั้นทำให้หัวใจมินซอกเต้นโครมครามเสียงดังยิ่งกว่าเสียงตีสเลทซะอีก แต่ที่หนักกว่านั้นคือคำพูดต่อจากนี้ของคุณผู้กำกับต่างหาก

“เพราะมันทำให้ฉันอยากขังนายไว้ที่นี่ ไม่ให้ใครได้เห็นมันอีกนอกจากฉัน อยากจะขังไว้ดูทั้งวันทั้งคืน”

ลู่หานไม่พูดเปล่า เขายืนยันความต้องการของตนเองด้วยการกดริมฝีปากจูบที่โหนกแก้มของอีกคน ทำเอามินซอกอายจนแทบจะม้วนตัวสักสามตลบ >/////< เพราะเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณลู่หานอาจกำลังจีบเขาอยู่ แต่การจู่โจ่มที่หนักหน่วงแบบนี้ยังเรียกว่าจีบได้มั๊ยนะ แต่ไม่ว่ามันจะถูกเรียกว่าอะไร มินซอกของเราก็ยังคงทำตัวมึนได้อย่างต่อเนื่อง

“.....-////-...คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ...กักขังหน่วงเหนี่ยวมันผิดกฏหมาย.....”

ถึงคุณผู้กำกับจะเพลียกับเซ้นส์ความรักอันน้อยนิดของมินซอก แต่เขาคิดว่าเด็กนี้ต้องรู้สึกอะไรบางแหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่เขินหน้าแดงขนาดนี้ ^o^ เพราะงั้นเขาจะถอยไม่ได้ ตอนนี้แหละโอกาสเหมาะ ต้องลุยให้ถึงที่สุด

“ใช่ผิดกฎหมาย.......เว้นเสียแต่ว่า นายจะยินยอม”

ลู่หานบอกด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยเลศนัย แต่การกระทำของเขามันชัดเจนเสียยิ่งกว่า เมื่อเขากดเด็กหนุ่มให้นอนราบไปกับพื้นแข็งในโซนครัว พร้อมทั้งคร่อมร่างตรึงคนตัวเล็กไว้กันหลบหนี แล้วจึงเอ่ยประโยคที่ควรบอกออกไปอย่างชัดเจน

“ฉันชอบนายมินซอก...”

คำบอกเล่ากระซิบผ่านที่ข้างหู ก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะเข้ามาเอารัดเอาเปรียบแก้มเห่อแดงและซอกคอขาวที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวซึ่งชี้ชวนให้คุณผู้กำกับหลงใหลจนยากที่จะถอนตัว ถึงขนาดเอ่ยขอโต้งๆ แต่ก็กลัวถูกปฏิเสธจึงพูดเหมือนทีเล่นทีจริง

“ยอมเป็นของฉันเถอะนะมินซอก แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่มีทางปล่อยให้นายไปบอกตำรวจ เพราะถ้านายแจ้งความจับฉัน ฉันก็จะแจ้งความนายกลับเหมือนกัน”

“ขะ ข้อหาอะไรครับ!?”

“ขโมยอวัยวะมนุษย์”

“ผมขโมยอะไร?”

“หัวใจฉันไง ^O^

>//////< ผะ ผมเปล่าทำ”

“โกหก!! ก็เห็นๆอยู่ ว่านายขโมยมันด้วยการทำตัวน่ารัก แล้วผูกจุกแอบเปิ้ลมาหาฉันที่คอนโดอีก”

“ตำรวจไม่รับแจ้งคำร้องของคุณหรอกครับ -/////-

“งั้นฉันจะใช้ศาลเตี้ย ลงโทษนายด้วยการคุมขังไว้ที่นี่จนถึงเช้า ข้อหาพกพาความน่ารักโดยไม่ขึ้นคำเตือนจนเป็นเหตุให้ฉันสูญเสียอวัยวะและความเป็นตัวของตัวเอง >_^

>///////////////////<

ผู้กำกับเป็นแบบนี้ทุกคนมั๊ยนะ ><  ชอบทำให้คนอื่นใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ชอบทำให้คนอื่นเขิน ชอบใช้คำพูดที่ฟังเหมือนมีใจให้ ผู้กำกับคนอื่นๆเป็นเหมือนคุณลู่หานรึเปล่า? มินซอกยังเอาแต่ตั้งคำถามและแน่นอนว่าไร้ซึ่งคำตอบ หากแต่คำถามที่เขาตั้งกับตัวเองว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น คำตอบหนึ่งที่เขารู้ในตอนนี้คือ เขาหลงเสน่ห์คุณผู้กำกับคนนี้เข้าแล้ว >/////<  

“ว่าไงจำนนต่อหลักฐานรึยัง?”

คนด้านบนไม่เพียงแค่ถาม เขาบีบปลายจมูกแดงๆของมินซอกเพราะนึกมั่นเขี้ยว ในขณะที่ใบหน้าหล่อเหล่าและดวงตาอันแสนเสน่ห์เปล่งประกายวิบวับชักชวนให้เด็กตีสเลทหลงอยู่ในวังวนและปล่อยใจให้ยอมตามคุณผู้กำกับคนนี้

“....ผมยอมแล้ว -/////- ผมจะไม่แจ้งตำรวจ”

คำตอบที่ได้ยินทำเอาคุณผู้กำกับยิ้มกว้างเสียจนหน้าพับ(ก็คนมันดีใจ) ดังนั้นลู่หานจึงยอมปล่อยเด็กตีสเลทเป็นอิสระจากการถูกคร่อมร่าง หากแต่ชักชวนให้มินซอกลุกขึ้นแล้วกุมมือนิ่มๆนั้นพาเดินไปห้องนอนด้วยกัน ก็นะ ครั้งแรกระหว่างพวกเขาจึงอยากให้เป็นสถานที่ส่วนตัวและสะดวกสบายกว่านี้ ไม่ใช่พื้นแข็งๆในโซนครัว

 

 

“ผมขออาบน้ำก่อนได้มั๊ยครับ”

มินซอกเอ่ยขอเมื่อเข้ามาในห้องนอนกับคุณผู้กำกับ ส่วนหนึ่งเพราะเขารู้ข้อจำกัดจากอาการป่วยของตัวเอง และถ้าคิดจะทำเรื่องบนเตียงจริงๆเขาต้องการเวลาเผื่อว่าจะสามารถแก้ไขอะไรได้บ้าง นั้นเพราะเขาเองก็ไม่อยากพลาดโอกาสในคืนนี้ไปเหมือนกัน แต่ดูเหมือนคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอย่างผู้กำกับจะสนใจอยู่แค่เรื่องเดียว

“ไม่ต้องอาบหรอก ฉันไม่อยากให้กลิ่นสบู่มากลบกลิ่นของนาย”

ว่าแล้วก็กระโจนกอดเด็กหนุ่ม พร้อมทั้งฝั่งจมูกลงบนต้นคอและเนินไหล่เพื่อเก็บเกี่ยวความหอมซึ่งมาจากผิวกายของคนตัวเล็ก ระหว่างนั้นก็ดันให้มินซอกขึ้นไปนอนกลิ้งบนเตียงด้วยกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยงนัวเนียจนเหนื่อยจึงเปลี่ยนเป็นนอนกอดกันหลวมๆหันหน้าเข้าหากัน โดยคุณผู้กำกับเสียสละต้นแขนให้เด็กตีสเลทได้ใช้หนุนนอน

“ฉันชอบนายจริงๆนะมินซอก ไม่ได้พูดแค่หวังอยากได้นาย”

ลู่หานเอ่ยขณะที่เกลี่ยแก้มกลมด้วยข้อนิ้ว และไม่พลาดใช้โอกาสนี้ตั้งคำถามเชิงออกคำสั่งกับเจ้าของแก้มนิ่ม

“แล้วนายละมินซอก? บอกซิว่านายก็ชอบฉัน”

“ผมหลงเสน่ห์คุณครับ -////- ไม่แน่ใจว่าเรียก ชอบ ได้มั๊ย แต่ผมใจเต้นทุกครั้งที่คุณพูดกับผม มองผม เข้าใกล้ผม..... แล้วก็สัมผัสผม”

“แล้วนายอึดอัดมั๊ย? ที่ฉันทำแบบนั้นกับนาย”

หลังจากได้ยินคำถาม มินซอกจึงรีบส่ายหัวเป็นพลันละวัน แล้วพูดต่อทันที

“ผมชอบ......ก็.....น่าจะหมายถึง >///< ผมชอบคุณลู่หานนั้นแหละครับ”

“อืม....^O^......แล้ว.....ชอบฉันมากกว่า มินจี รึเปล่า?”

นี่คงเป็นข้อกังขาเดียวที่ทำให้ลู่หานยังไม่สบายใจ เพราะถ้าเขาชอบใครแล้ว แน่นอนว่าต้องการเป็นที่หนึ่ง เขาอยากให้มินซอกชอบเขามากว่าใคร หลงใหลแต่เขา เรียกหาแต่เขา คิดถึงเขา......เอาจริงๆมันก็แค่ อารมณ์หึงหวง

“ผมบอกไม่ได้หรอกครับว่าชอบคุณมากกว่ามินจีรึเปล่า มันไม่เหมือนกัน”

มินซอกเพียงแต่ตอบไปตามตรง มินจีเป็นน้องสาวของเขาก็ต้องรักต้องห่วงเป็นธรรมดา แต่กับคุณลู่หาน คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดแต่เขาก็รู้สึกชอบได้ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบ มีเหตุผลอะไรสนับสนุน เขารู้แค่ว่าคุณลู่หานเป็นคนที่เขาอยากอยู่ใกล้ๆ -/////- แต่ความเข้าใจผิดยังทำให้คุณผู้กำกับติดอยู่ในวังวนแห่งความน้อยใจ

“ฉันรู้ว่าเธอคนนั้นมาก่อน.....แต่ฉันชอบนายจริงๆนะมินซอก ฉันอยากให้เรามาคบกัน ถึงฉันต้องกลายเป็นบ้านเล็กของนายก็ไม่เป็นไร.....ฉันทนได้”

“คุณลู่หาน....”

“ฉันรับรองได้เลยว่า นอกจากร่างกายแบบผู้หญิง ฉันสามารถให้นายได้ทุกอย่างที่เหนือว่าผู้หญิงคนนั้นจะให้นาย”

“ผมรู้ แต่ว่า”

คุณผู้กำกับยังคงยื่นข้อเสนอ และมินซอกเริ่มจับความผิดปกตินี้ได้ ยิ่งได้ยินก็ยิ่งมั่นใจว่าคุณลู่หานกำลังเข้าใจบ้างอย่างผิดไป นั้นจึงทำให้เขาอยากที่จะอธิบาย แต่ดูท่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อคุณผู้กับกับคนนี้พูดไม่หยุดและไม่เปิดโอกาสให้มินซอกได้พูด

 “เก็บเอาไปคิด เลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วมาคบกับฉัน นายจะรู้เลยว่าอารมณ์คนถูกหวยมันเป็นยังไง และนี่จะเป็นผลของการถูกเลขท้ายสามตัว”

เมื่อโฆษณาจนพอใจลู่หานจึงเริ่มให้ผลตอบแทนอย่างที่ว่า ด้วยการลุกขึ้นมาถอดเสื้อแจ็คเก็ตและเสื้อตัวในออก ก่อนจะหันมาถอดเสื้อให้มินซอกด้วยแล้วโยนไปข้างเตียง

“ส่วนแจ็คพอตจะแตกมั๊ย ก็ต้องดูว่าคืนเราเข้ากันได้ดีขนาดไหน มันอาจจะแตกได้หลายรอบเท่าที่นายและฉันจะมีแรงทำ”

ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีก ก็ถึงเวลาที่คุณผู้กำกับจะได้กินเด็กตีสเลทให้สมใจสักที

 

 

“อือ~~

การร้องครางกระเส่าคงจะทางออกเดียวสำหรับมินซอก เพื่อระบายความเสียวซ่านที่อัดอั้นจนเนื้อตัวสั่น

ร่างขาวด้านใต้สวมเพียงกางเกงชั้นใน นอนบิดไปมาให้เจ้าของเตียงได้สนุกปากกับร่างกายของเขา เม็ดเหงื่อผุดตามร่างกายเมื่อยามสะท้อนแสงไฟสลัวกลับแวววาวระยิบระยับ ดุจอัญมณีใสบริสุทธิ์บนพื้นผ้าสีแดงสดจากชุดเครื่องนอน นั้นจึงยิ่งตอกย้ำให้ลู่หานคิดว่ามินซอกเป็นเทพธิดาที่เกิดมาเพื่อเป็นของเขา และเหมาะที่จะนอนเปลือยกายบนเตียงสีแดงของเขาเท่านั้น

อีกทั้งร่องรอยการจับจองเป็นเจ้าของบนเรือนร่างขาวบริเวณหน้าอกและเนินไหล่ ดูจะเป็นอะไรที่ทำให้คุณผู้กำกับมีความสุขเสียเหลือเกิน ที่เห็นรอยจูบเหล่านั้นผลัดสีแข่งกับสีเตียง

“ฉันมองว่านายน่ารักมาตลอดมินซอก”

ลู่หานเท้าแขนขนาบข้างเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยด้วยเสียงแห่งพร่า ก่อนจะก้มลงทำรอยจูบไว้ที่ท้องน้อยใต้สะดือ ในขณะที่มืออีกข้างลูบไล้ต้นขาด้านในและจงใจสัมผัสเป้ากางเกงชั้นในที่ตุงขึ้นเรื่อยๆอย่างแผ่วเบา

“แต่ตอนนี้นายงดงาม ทั้งใบหน้า รูปร่าง หรือแม้แต่กล้ามเนื้อของนาย เสียงของนาย การเคลื่อนไหว ทุกๆอย่างที่นายทำ ทุกๆอย่างที่เป็นนายทำฉันคลั่ง ฉันกำลังจะสำลักความหึงหวงอย่างไม่มีเหตุผล”

บทนารีปราโมทย์ยังคงขับขาน ชวนเด็กหนุ่มให้ลุ่มหลงในภวังค์แห่งรักและท่วงท่าสวาทซึ่งพร้อมจะสรรหามาปรนเปรอ

“.......////////........”

“นายอาจคิดว่าฉันเป็นบ้าไปแล้วก็ได้ เพราะฉันเอาแต่คิดว่านายงดงามที่สุดเวลาไม่ใส่อะไรเลย.....แล้วนอนอยู่บนเตียงนี้กับฉัน .....แค่กับฉันเท่านั้น”

เมื่อบรรยากาศชี้ชวนขนาดนี้ มีหรือที่ลู่หานจะนิ่งเฉย ริมฝีปากที่เคยโอ้โลมด้วยลมปาก หวนหากล้ามเนื้อหน้าท้องเช่นดังเดิม แต่คราวนี้มีแต่ต่ำลงเรื่อยๆพร้อมทั้งพร่ำจูบทำรอยไปทั่ว โดยมีเด็กหนุ่มส่งเสียงให้ได้ยินไม่ขาดปาก

ลู่หานเปลี่ยนท่านอนขนาบข้างเป็นคร่อมช่วงล่างของมินซอกเอาไว้ มือที่เคยลูบต้นขาและเป้ากางเกงให้อีกคน เปลี่ยนหน้าที่ขึ้นไปขยี้ยอดออกจนตั้งเต้าแข็งสู้มือ ซึ่งนั้นทำให้คนใต้ล่างแอ่นอกหนี้ครางเสียงงอแงเพราะการถูกกระตุ้นหลายจุดพร้อมๆกันมันทำให้เขารับไม่ไหว

แต่ใครจะสน......คุณผู้กำกับยังคงได้ใจใช้ปลายนิ้วทรมานเด็กหนุ่มที่ยอดอกต่อไป หนำซ้ำยังเพิ่มระดับการสั่นสะท้านด้วยการใช้ฟันกัดขอบกางเกงชั้นในแล้วดึงลงจนเผยให้เห็นหัวหน่าวและโคนส่วนอ่อนไหวอย่างเต็มตา และเพราะนึกสนุกคุณผู้กำกับจึงปล่อยให้ขอบชั้นในหดตัวกลับดีดต้นขาและโคนแท่งเนื้อเสียงดังเปรี๊ย! ทำเอามินซอกสะดุ้งเฮือก

แต่นั้นคงไม่สาแก่ใจ ลู่หานยังสนุกปากด้วยการสร้างรอยจูบไว้บนเนินหัวหน่าว ดูดจนผิวขาวมีแต่รอยแดง อีกทั้งยังเลื่อนต่ำหันมาใช้ฟันขบหัวหน่าวซึ่งปกคลุมด้วยไรขนอ่อนอย่างแผ่วเบาอยู่หลายครั้งจนมินซอกถึงกับต้องร้องขอ

“ผะ ผมไม่ไหวแล้ว~~ คุณลู่หาน~~~ ผมทรมาน~

 มินซอกบอกด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า เพราะตอนนี้ร่างกายเขามันเกินกว่าจะทนไหวอีกต่อไป

“นายต้องการฉันขนาดต้องร้องไห้เลยเหรอ”

ลู่หานเอ่ยหลังจากยอมเงยหน้า และนั้นทำให้เขาเห็นว่าหยดน้ำใสๆคลออยู่ในด้วยตามินซอก และสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังทุกทรมานอย่างเหลือล้น

“ได้มินซอก ถ้านายต้องการแบบนั้น ^O^

ลู่หานเอ่ยด้วยความใจดี อีกทั้งยังเอื้อมมือเช็ดหยดน้ำตาให้คนน่ารักตัวเล็กของเขา แล้วหันไปค้นลิ้นชักที่โต๊ะข้างหัวเตียง ดังนั้นมินซอกจึงคิดใช้โอกาสนี้ในการสารภาพกับคุณผู้กำกับถึงความทรมานที่ว่า

 ความทรมานจากความต้องที่คุณลู่หานพยายามสร้างให้มันได้ผลเป็นอย่างมาก มันกระตุ้นให้เขามีอารมณ์ร่วม มันทำให้เขาอยากเป็นของคุณลู่หานจริงๆ และอยากเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ แต่ความทรมานจากอาการป่วยที่กำเริมมาได้พักใหญ่ซึ่งเขาพยายามข่มและอดทนกับมันเพื่อหวังจะเอาชนะให้ได้ ดูเป็นเรื่องฝันเฟื่องในทันทีเมื่อเขาไม่อาจเอาชนะมัน

“คุณลู่หาน ผมมีเรื่อง...ที่ต้องบอกคุณ....ผม...”

พูดยังไม่ทันขาดคำอาการเจ็บร้าวที่ส่วนอ่อนไหวก็แล่นพริ้วไปทั่วร่าง มินซอกพยายามกัดฟันเก็บเสียงร้องของตัวเองไว้จึงทำให้พูดได้ไม่ทันจบ และนั้นทำให้เขาพลาดโอกาสไปจริงๆ

“ฉันรู้แล้วละ...มินซอก”

“คุณรู้?!.....”

มินซอกเบิกตากว้างมองอีกคนด้วยความตกใจ หากแต่ลู่หานยังคงวุ่นกับการหาของในลิ้นชักแล้วตอบทั้งที่ไม่หันมองด้วยซ้ำ

“อืมม ฉันรู้ว่านายเริ่มชอบฉันมากขึ้นแล้ว แต่ฉันทำให้นายชอบฉันได้มากกว่านี้อีกนะ  ^^

อย่างน้อยประโยคท้ายลู่หานก็ยังหันมายิ้มให้เด็กหนุ่มแล้วกลับไปค้นของอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถหามันเจอ

 “ฉันว่าฉันเก็บถุงยางไว้ในนี้นะ”

ลู่หานบ่นตัวเองให้มินซอกฟังเมื่อไม่อาจหาของที่ต้องการเจอ พลางครุ่นคิดว่าจะหาถุงยางได้ที่ไหนอีกบ้างภายในคอนโด และแล้วเขาก็คิดออก

“ใช่แล้ว! ในกระเป๋าเงิน รอก่อนนะมินซอก ^^ ฉันเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าเงินน่าจะมีสัก 2 ชิ้นได้มั้ง แต่ฉันวางมันไว้ที่โซฟานะ ชักมือรอไปก่อนะเดียวฉันรีบไปจะรีบมา”

เมื่อบอกกับมินซอกแล้วลู่หานจึงรีบวิ่งออกไปพร้อมกางเกงบ๊อกเซอร์เพียงเท่านั้น ส่วนมินซอกก็ได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆกลับไป ด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว และเสียดายเป็นที่สุด

 


ไม่เคยเกลียดโรคนี้เท่าวันนี้และตอนนี้มาก่อนเลย มันกำลังจะทำให้เขากับคุณลู่หานไม่สามารถทำแจ๊ตพอตแตกได้..... อยากนึกโทษพระเจ้าที่ประทานโรคนี้ให้เขา และอยากนึกโทษตัวเองที่ไม่ไปรักษาให้มันจบๆไป นึกเสียดายจริงๆที่วันนี้มันจำเป็นต้องใช้แต่เขากลับใช้มันไม่ได้ ทั้งที่ชอบคุณลู่หาน ทั้งที่อยากถูกเป็นเจ้าของ....... ทั้งๆที่มีอารมณ์ร่วมด้วยแล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายเขาจะทำมันไม่ได้จริงๆเหรอ

แค่เพราะหนังหุ้มปลายของเขาไม่เปิด แค่เพราะมันหนาและเปิดให้เฉพาะปัสสาวะไหลผ่านได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้ส่วนอ่อนไหวออกมาดูโลกภายนอก ดังนั้นทุกครั้งที่เขาเกิดอารมณ์จนส่วนอ่อนไหวขยายใหญ่ขึ้นมา เขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอยู่ร่ำไปจนแทบจะร้องไห้ เหมือนกำลังถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก อยากก็อยากแต่มันเจ็บจนเกินทนไหว แค่จะช่วยตัวเองยังทำไม่และนับประสาอะไรจะไปนอนกับคนอื่น

นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฉากร่วมรักต่างๆรอบตัว ร่วมทั้งการปลีกตัวเป็นคนไม่มีคู่ซะ ทำยังไงก็ได้ที่จะไม่กระตุ้นความต้องการของตัวเองให้ทรมาน แต่พระเจ้าคงไม่สาแก่ใจจึงบันดานให้เขาได้พบกับคุณลู่หาน

 บุคคลที่ชอบกระตุ้นเซ้นส์ความไวต่อการรับสัมผัสให้ทำงานได้ดีเกือบ 100% เพียงแค่ได้ยินเสียง.... ได้มองเห็น..... ได้รับกลิ่น..... ได้สัมผัส.......  และได้จูบ...... -//////-  เกือบทุกครั้งเขาต้องลดอารมณ์และความต้องการทางเพศของตัวเองด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจ โดยวิธีง่ายๆที่เขาใช้บ่อยและทำเป็นประจำ นั้นคือการออกกำลังกาย

แต่ตอนนี้เขาต้องการคุณลู่หานมากเกินกว่าจะหยุดมัน เขาอยากถูกรัก อยากถูกเลขท้ายสามตัว อยากแจ๊ตพอตแตกได้เหมือนคนอื่นๆทั่วไป รวมทั้งอยากให้คุณลู่หานเป็นเจ้าของเขาทั้งหมด ไม่ว่าจะหัวใจ....หรือร่างกาย

 

 เมื่อตัดสินใจดังนั้น มินซอกจึงเลือกทำสิ่งสำคัญในชีวิต โดยการพยายามลุกออกจากเตียง แล้วเดินไปล๊อคประตูห้องก่อนที่คุณลู่หานจะกลับเข้ามา พร้อมทั้งภาวะถึงพระผู้เป็นเจ้า

“ขอร้องละครับ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่สามารถเป็นของใครได้เลยหรือแม้แต่มือของตัวเอง ผมไม่อยากพลาดโอกาสนี้ ผมอยากเป็นของเขา”

วิงวอนต่อพระเจ้าแล้ว มินซอกจึงดึงเกงเกงชั้นในของตัวเองลงไปที่เข่า แล้วนั่งเกร็งอยู่ปลายเตียง ก่อนจะจับส่วนอ่อนไหวของตัวเองที่จะพยายามจะแข็งโด่ขึ้นมา แต่มันกลับดูหง่อยเปลี้ยเพราะไอ้หนังหุ้มปลายที่มันหนาและไม่ยอมเปิดเหมือนคนปกติ

จำได้ว่าครั้งแรกที่พยายามจะถลกหนังหุ้มปลายออก คือตอนที่กำลังจะมีอะไรกับแฟนสาวคนแรก แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จเขาเจ็บจนนอนร้องไห้ แล้วอีกสองสามวันต่อมาแฟนสาวก็ขอเลิก นั้นจึงทำให้มินซอกไม่กล้าสนใจใครอีกตราบใดที่เขายังรูดหนังหุ้มปลายขึ้นมาไม่ได้ แต่วันนี้แหละ! เขาตัดสินใจแล้วที่จะพยายามถลกมันขึ้นอีกครั้งเพื่อหวังร่วมรักกับคุณลู่หานให้สำเร็จ

มินซอกสูดหายใจเข้าจนสุดปอด ในมือกุมความเจ็บที่ทรมานเขาสิ้นดีในตอนนี้ แต่เชื่อว่าการพยายามถลกหนังหุ้มออกคงหนักหน่วงกว่าเป็นแน่ หากแต่ยังไม่ทันได้รูดมือ เสียงเคาะประตูก็ฉุกเรียก

“มินซอกอ่า~~ ฉันได้ถุงยางแล้วนะ แต่ประตูมันล๊อคเปิดให้หน่อยซิ”

“คุณลู่หานรออยู่ข้างนอกก่อนได้มั๊ยครับ ผมขอเวลาแป๊บนึง”

มินซอกตะโกนกลับไปด้วยความร้อนใจไม่แพ้คนข้างนอก ที่อยากนอนกอดกันจนตัวสั่น แต่มินซอกจำต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะถ้าเขาพาส่วนออกไหวออกมาจากหนังหุ้มปลายไม่ได้ ก็คงทำเรื่องบนเตียงต่อไม่ได้

“อ่า..ได้ๆ งั้นเดี๋ยวชักมือรอนะ นายก็รีบๆละ”

เมื่อได้ยินดังนั้นมินซอกก็ไม่คิดจะพูดต่อ ตอนนี้เขาเอาแต่ยุ่งกับการคิดว่าทำยังไงถึงจะถลกไอ้หนังหุ้มปลายนี้ขึ้นมาได้ รู้ว่าหมอช่วยเปิดมันได้ด้วยการผ่าตัด แต่ตอนนี้ละ!!  เขาจะใช้เดี๋ยวนี้แล้ว ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้นแหละมินซอกคิด

แต่มันเจ็บเหลือเกินเนี้ยซิ น้ำแข็งก็ไม่มี ยาชาก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน รูดสดเลยละกัน  ว่าแล้วก็มองหาตัวช่วย?..... ช่วยเก็บเสียง โดยการคว้าผ้าห่มมากัดและอุดปากไปด้วยในตัว เมื่อพร้อมแล้วจึงใช้มือซ้ายจับโคนแท่งแล้วใช้มือขวากำส่วนหัวที่กำลังเจ็บระทม จากนั้นจึงเริ่มนับ ให้สัญญาณกับตัวเอง

“ อึ่ง ออง อาม...อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เสียงคำรามอย่างทรมานนี้ไม่อาจส่งไปถึงพระเจ้าเพื่อขอความเห็นใจ เด็กตีสเลทนั่งงอตัวพลางน้ำตาเล็ด TT_TT เมื่อความพยายามที่จะรูดหนังหุ้มปลายออกไม่เห็นผล อึดอัดก็อึดอัด อยากหรือก็อยาก ทั้งที่เจ็บมากแต่มินซอกก็ยังพยายามทน นั้นเพราะเขาชอบคุณลู่หานและอยากถูกจับจองเป็นเจ้าของสักที อีกทั้งคนข้างนอกก็เร่งเร่าเสียเหลือเกิน

“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ? แฮ่ก ฉันจะ....ไม่ไหวแล้วนะ มินซอก~

มือนึงเคาะประตู มือนึงก็สาวไม่หยุด กะว่ามินซอกเปิดประตูเมื่อไรก็พร้อมจะเสียบทันที แต่บางทีคุณผู้กำกับอาจคิดผิด เมื่อมินซอกยังไม่ยอมเปิดง่ายๆ

“อีกแอ๊บอึง!!(อีกแป๊บนึง)  อึ่ง ออง...อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

 

“มินซอกอ่า~~

 

“อึ่ง ออง อาม...อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”

 

“มินซอก~~~

 

“ แฮ่ก แฮ่ก อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!

 

 “มินซอกอ่า~~~~ ฉันเสร็จไปรอบนึงแล้วนะ เมื่อยมือแล้วเนี้ยเปิดประตูสักทีเถอะนะ”

 

“แฮ่ก..แฮ่ก...เดี๋ยวก่อนครับ แฮ่ก... คุณช่วยตัวเองไปก่อน”

มินซอกตะโกนบอกหลังคายผ้าห่มออกจากปากด้วยความรู้สึกผิดปนเสียดาย แต่เขาไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวจริงๆ บอกเลยว่าเจ็บจนร้องไห้ออกมาเป็นสาย เจ็บเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว TT_TT

รูดยังไงก็ไม่ยอมออก ดึงยังไงก็ไม่ยอมเปิด.....มีแต่เจ็บ และเจ็บยิ่งกว่าเก่า ..... บอกเลยว่าท้อ และอยากยอมแพ้ เขาสู้ความเจ็บกับอาการทางกายไม่ไหวจริงๆ ความฝันทั้งหลายพังทลาย ความพยายามทั้งหมดดูไร้ค่า เมื่อตอนนี้มินซอกกลับมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมทุกชิ้น แล้วหันมาเริ่มต้นลดความเจ็บปวดของตัวเองด้วยการ

“สกั๊อตจั๊มพ์ 100 ครั้ง 100 ครั้ง!! ปฏิบัติ!!!! 1 2 3 4 5 6 7

ซึ่งแน่นอนว่าคนข้างนอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทริปถูกหวยได้ถูกยกเลิกแล้ว เขายังคงยืนรอที่หน้าประตูในขณะที่ใช้มือช่วยตัวเองเป็นรอบที่สอง

“ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ!! นายทำอะไรอยู่มินซอก! เฮ่อ~~~

เพราะมินซอกไม่ยอมตอบ ลู่หานจึงต้องเอียงหูแนบประตูฟังเสียงจากข้างใน และสิ่งที่ได้ยินทำเอาคิ้วคุณผู้กำกับต้องผูกโบว์

“นับเลขอยู่เหรอ? เรามานับด้วยกันก็ได้ ขอร้องละมินซอกเปิดประตูให้ฉันที มินซอก~~ มินซอกอ่า~~~~ มินซอกกกก~~~~

โหยหวนไปก็เท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเรียก จะตะโกน ออกคำสั่ง ข่มขู่ หรือชักชวน จูงใจด้วยสิ่งของ หรือโปรโมชั่นสมนาคุณใดๆ มินซอกก็ไม่ตอบสนองทั้งสิ้น นั้นเพราะเด็กตีสเลทกำลังวุ่นอยู่กับ

 

277  278  279  280! แฮ่ก แฮ่ก 281 282 283 284 285 286 287 288 289 290!

 

 

To be continue………………………100%…………………….

 

เฉลยแล้วกับโรคของหมิน “หนังหุ้มปลายปิด” จริงๆมันไม่ใช่โรคนะคะ เป็นแค่กลุ่มอาการผิดปกติเท่านั้น วิธีรักษาตอนนี้ที่ฉันรู้คือมี 2 อย่างคือใช้ยาทาแล้วค่อยๆฝึกรูดหนังหุ้มปลายขึ้นใช้เวลาและเจ็บหน่อยตอนฝึก กับไปให้หมอผ่าออกเลยหรือก็คือการขลิบนั้นเองคะ^^ เห็นมั๊ยว่ามันรักษาได้และไม่ได้ยาก แต่ยัยหมินในเรื่องขี้งกเอง บวกกับความกลัว  

ขออธิบายเพิ่มเติมว่ากลุ่มอาการผิดปกติเหล่านั้นเกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกคน ยิ่งผู้ชายคนไหนโตมาโดยไม่เคยรูดหนังหุ้มปลายของตนเองขึ้นเลย ก็สามารถเกิดอาการเหล่านี้ได้ และอาการนั้นมีหลายระดับ ถ้าใครอยากได้ความรู้เพิ่มเติมสามารถค้นหาได้ในอินเตอร์เน็ตนะคะ ^^

และหวังว่าพวกคุณจะไม่ลืมส่งกำลังใจให้ฉันบ้างเพราะ

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฉันคะ ^^