[SF ] : คยู.....ฉันคิดถึงนาย
Couple : Kyuhyun * Sungmin
Auothor : Kyu samin
-----------------------------------
แสงแดดยามสายใกล้เที่ยงแบบนี้ มันทำให้ดวงตากลมต้องหรี่ลงเพื่อปรับสภาพสายตาให้ชินกับสภาวะใหม่
เท้าเล็กที่ก้าวลงมาจากรถบัส สาย นัมซาน - โซล ค่อยๆเคลื่อนย้ายตัวเองมายังอาคารผู้โดยสารเพื่อหลบแสงแดดที่ร้อนจัด ก่อนที่ร่างบางจะหยิบเครื่องมือสื่อสารเครื่องเล็กสีชมพูสดใสออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดต่อสายหาคนที่ทำให้เขาต้องจากไร่ฟักทองของเขา ที่นัมซาน แล้วเดินทางมาที่นี่....ด้วเหตุผลเพียงข้อเดียว...”คิดถึง”
“..........คยู.........ตอนนี้นายทำอะไรอยู่หรอ...............ว่างรึเปล่า......คือฉันมีเรื่องจะบอกนะ......... ตอนนี้ฉัน”
// เอ่อ......ซองมินคือตอนนี้ฉันยุ่งมากๆเลย......ฉันต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบบ่ายนี้นะ....แค่นี้ก่อนนะ....ไว้ฉันสอบเสร็จแล้วจะโทรกลับ..//
“คยูเดี๋ยว.....อย่าเพิ่งวาง....คยู!!!.....” เสียงหวานร้องขึ้นอย่างไร้ประโยชน์เมื่อคู่สนทนาวางสายไปเสียก่อน
---------------------
ผู้คนที่เดินทางทั้งเข้าและออกเริ่มบางตาลง หลังจากที่หลายๆคนเริ่มเดินไปยังเส้นทางที่ตัวเองรู้จักและคุ้นเคย แต่ไม่ใช่ร่างบางในตอนนี้
ณ เวลานี้ ซองมินได้แต่นั่งหน้าเศร้าอยู่เพียงลำพังบน เก้าอี้ที่ทอดยาวไปจนสุดอาคารผู้โดยสาร.........
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กคนหนึ่งที่เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในไร่ ฟักทอง ที่ นัมซาน ที่ที่ซึ่งห่างไกลสิ่งที่เรียกว่าความเจริญอย่าง โซล
แต่เพราะความรักและความคิดถึงของคนตัวเล็กที่มันมีมากเกินกว่าที่จะทนรอให้แฟนหนุ่มของเขากลับไปหา มันเรียกร้องให้เขาต้องมาที่นี่ เขาต้องขอแม่ตั้งนานกว่าที่แม่จะยอมให้มา เขาหวังไว้ว่าแฟนหนุ่มของเขาต้องดีใจมากๆถ้ารู้ว่าเขามาที่นี่
แต่ตอนนี้.........ทำไมเขาถึงต้องมานั่งอยู่ที่นี่เป็นนานสองนาน ถึงแม้คยูฮยอนจะไม่ว่างก็ตาม และเขาเองก็เข้าใจ.....แต่เขาเองก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดจะหลงทางได้ เขาเองก็จบ ม. ปลายมาเหมือนกัน เพียงแต่ที่บ้านไม่มีเงินส่งให้เรียนต่อก็เท่านั้น ถ้าฐานะที่บ้านของเขาดีกว่านี้สักหน่อย ตอนนี้เขาอาจจะได้มาเรียนต่อที่โซลเหมือนคยูฮยอนก็ได้
แทนที่เขาจะมานั่งรอโทรศัพท์จากคยูฮยอน ถึงแม้จะไม่รู้จักเส้นทางใด แต่เขาก็น่าจะสามารถไปหาคยูฮยอนที่ มหาลัยได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น เส้นเอ็นที่เคยงออยู่ก็เหยียดตรึง พร้อมกับพาร่างบางก้าวไปข้างหน้า แม้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะดูน่ากลัวเพียงใด หรือ ตัวเขานั้นจะไม่รู้จักเส้นทางใดๆที่ตอนนี้เขามองเห็นได้ แต่เขาเชื่อว่า พระเจ้าต้องเข้าข้างเขา พระเจ้าต้องพาเขาไปหาคยูฮยอนได้แน่ๆ
เมื่อออกมาจากอาคารผู้โดยสารได้ไม่นาน ซองมินก็หยุดลงที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆ และเริ่มมองหาคนที่อาจจะช่วยเหลือเขาได้บ้าง ก่อนจะถามออกไป
“เอ่อขอโทษครับ....ผมจะไปมหาลัย อิงคยอง ได้ยังไงครับ “
“หืม....มหาลัยอิงคยองนะหรอ..........นั่ง รถเมล์ สาย 137 ไปประมาณ 45 นาทีก็ถึงแล้ว” หญิงสาววัยกลางคนหันมาตอบเขาและยิ้มให้อย่างใจดี
“ขอบคุณครับ” ซองมินก็ยิ้มอย่างน่ารักส่งคืนเช่นกัน และหลังจากยืนรอ รถเมล์สายดั่งกล่าวได้ไม่นาน ร่างบางก็เคลื่อนย้ายตัวเองอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระชับกระเป๋าเป้สีชมพูใบเก่งให้แนบกับแผ่นหลังของเขา เมื่อมองเห็นป้าย 137 บนหน้ากระจกรถเมล์
ทันทีที่สะโพกมนสัมผัสกับเบาะนั่ง ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็เริ่มวิ่งเข้าหา เปลือกตาบางหรี่ลงอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่สติจะหายไป หลงเหลือเพียงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
..............................
//ป๊อก!!!....//
“อู๊ย.....”เปลือกตาบางลืมขึ้นทันทีที่ศีรษะของเขากระแทกกับของแข็งอะไรบางอย่าง ตากลมมองขอบกระจกสิ่งของต้องสงสัยที่อาจเป็นสาเหตุให้ศีรษะของเขานูนขึ้นมา พร้อมฝ่ามือบางที่ลูบบริเวณที่ถูกกระแทกเบาๆ ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อมองหาสถานที่ๆเขาต้องการจะไป
“ หลับไปตั้งแต่เมื่อไรเนี้ยเรา ถึงไหนแล้วก็ไม่รู้.......แล้วที่นี่มันที่ไหน” ยิ่งมองก็ยิ่งเข้าใจ ซองมินไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ใด
ถึงแม้ในใจจะเริ่มกลัวขึ้นมานิดๆ แต่การมองเห็นนักศึกษาเดินกันให้ขวักไขว่.....มันก็ทำให้ร่างบางยิ้มออก ใกล้ๆที่นี่ต้องมี มหาลัยแน่ๆ และก็จริงอย่างที่เขาคิด ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเขามองเห็นป้ายหินอ่อนขนาดใหญ่เขียนว่า “มหาวิทยาลัย อิงคยอง”
ทันทีที่เข้าใจได้ว่าสิ่งที่เห็นคือเป้าหมายการมาของเขา ร่างบางก็รีบลุกขึ้นทันที มันเป็นช่วงที่รถจอดให้ผู้โดยสารลงพอดี แต่ที่ไม่พอดี คือ ประตูรถกำลังจะปิด ความเร็วที่มีน้อยนิด แต่เขาก็สามารถพาตัวเองลงมาได้อย่างหวุดหวิด
“เห่อ.......”ซองมินถอนหายใจอย่างโล่งออกเมื่อ เขาลงมาได้ทันแต่ความคิดที่ว่ากำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเขารู้สึกเหมือนกำลังโดยลากไปทางด้านหลัง จนเขาไม่สามรถยืนอยู่เฉยๆได้
ซองมินกำลังจะหันไปต่อว่าคนที่กระทำกับเขาแบบนี้ และเขาก็ได้ค้นพบว่า แท้จริงแล้ว กระเป๋าเป้ของเขา ยังอยู่ในรถโดยสารส่วนหนึ่ง โดยมีประตูอัตโนมัติ หนีบมันไว้อย่างนั้น ยังไม่ทันได้ตั้งท่าร้องบอกคนขับ ให้เปิดประตูอีกครั้ง
ความเร็วที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ รองเท้าผ้าใบคู่เล็กลากถูกับพื้นถนนอย่างน่ากลัว ร่างบางไม่อาจทรงตัวอยู่ได้อีกต่อไป แขนทั้งสองข้างถูกหิ้วปีกโดยสายกระเป๋าเป้ทั้งสองข้าง มือบางทุบเข้ากับประตู พร้อมกับเสียงเล็กที่ร้องดังโวยวาย ให้คนขับหยุดการเดินรถ
// ปังๆๆๆ!!!!!!!.....//
“หยุดก่อน หยุดรถก่อน.......ได้ยินมั้ย.......จอดรถก่อน......ผมโดยลาก......หยุดรถเร็วๆเข้า.......ช่วยด้วย!!!!......ช่วยผมด้วย....” ความหวาดกลัวพุ่งพรวด เข้ามาสู่จิตใจ น้ำตาใสๆเริ่มรินไหลออกมาเป็นสาย ความกลัวมันทำให้เขาร้องลั่นเพื่อให้ตัวเองพ้นจากสถาณการณ์แบบนี้ ให้คนขับรถหยุดมันเสียที
ความเร็วของรถโดยสารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอๆกับเสียงร้องของร่างเล็กที่ยังร้องเรียกไม่หยุด ด้ายเส้นบางที่ยึดสายกระเป๋าไว้ด้วยกับ บัดนี้ได้ขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
ส่งผลให้แขนข้างขวาถูกปล่อยเป็นอิสระ สะโพกกลมลงสัมผัสกับพื้นผิวถนนที่เป็นแอ่งขนาดใหญ่มีน้ำขังในทันที่ แขนอีกข้างก็หลุดจากสายกระเป๋าด้วยเช่นกัน แม้ตอนนี้ร่างบางจะหยุดนิ่งแล้ว แต่ล้อรถที่เคลื่อนผ่านแอ่งน้ำจนเกิดการกระจายตัวและส่งมาถึงร่างบางด้วยเช่นกัน
ความกลัวหมดไปจากใจ ตอนนี้เหลือแต่ ความเจ็บแสบจากแผลที่ได้มา และความอับอาย จากการถูกมองโดยผู้คนแถวนั้น ซึ่งส่วนมากเป็น นักศึกษา
น้ำใสๆไหลหนักมากว่าเดิม สะโพกกลมยังแช่อยู่ในแอ่งน้ำขังที่พื้นถนน ขาสั้นเริ่มขดตัวเขาหากัน มือบางจัดการถอดรองเท้าผ้าใบที่เขาใส่ในตอนนี้ขึ้นมาดูสภาพ
รองเท้าผ้าใบสีขาวมีริ้วเป็นสีชมพูที่คยูฮยอนซื้อให้ตอนสมัยเรียน ม. ปลายด้วยกัน บัดนี้มันเปื้อนเลอะเทอะและพังจนไม่สามารถใส่ได้อีกแล้ว
ใบหน้าหวานก้มลงซุกตัวกับหัวเข่าเพื่อปกปิดสายตาของคนที่ยืนมองเขา ที่ตอนนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกอดรองเท้าแสนรักไปด้วย
“ฮื่อ.....อึก ...คยู..........ตอนนี้นายอยู่ไหน....ฮื่อ..” ซองมินได้แต่ร้องไห้และพึมพำกับตัวเองเบาๆ ตอนนี้เขาเจ็บ แล้วก็อายเหลือเกิน.......อายจนไม่กล้าขยับตัว ทำอะไร ....หรือแม้แต่ลุกเดินออกไปจากที่นี่.....
“ซองมิน......” เสียงที่คุ้นเคยและอยากได้ยินตลอดเวลา เสียงของใครบ้างคนเอ่ยเรียกเขาแม้จะแผ่วเบา...แต่เขาก็ได้ยินและหันไปตามเสียงนั้นทันที
“คยู.....”
ขายาวก้าวออกมาจากกลุ่มผู้คนที่ยืนมองดู และก้าวเข้ามาหาซองมินเรื่อยๆ สายตาคมทอดมองไปยังแฟนร่างบางของตัวเอง
ใบหน้าหวานนวลเนียนและแก้มใสที่เคยยิ้มอย่างสดใสตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา ผิวขาวบอบบางน่าถนอมไว้ เต็มไปด้วยรอยถลอก และรอยช้ำ ไหล่บางสั่นไหวน้อยๆจากการสะอึก และดวงตากลมที่บัดนี้แดงก่ำเนื่องจากการร้องไห้ ก็มองมาที่ร่างสูงเช่นกัน
“อย่าเข้ามานะ!!!!.........”
“...........” คยูฮยอนตกใจไม่น้อยกับเสียงตวาดของคนรักก่อนจะหยุดฝีเท้าให้อยู่นิ่ง
“ฉันสกปรกขนาดนี้......คยูอย่าเข้ามาใกล้เลย....เดี๋ยว คยูจะเปื้อนเอานะ..” เสียงใสเอ่ยขึ้นอย่างหวานหูเหมือนที่เคยได้ยิน.....
ซองมินรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองน่าสมเพศเพียงใด เขาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้ คยูฮยอน ถึงแม้ในใจอยากจะวิ่งเข้าไปกอด คยูมากแค่ไหน แต่ถ้าเขาทำแบบนั้น.....คนอื่นจะมอง คยูของเขายังไง
ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัว ก่อนที่ร่างบางจะได้สติกลับมาอีกครั้งเมื่อ คยูฮยอนใช้แขนทั้งสองข้างช้อนร่างของเขาขึ้นมาจากพื้น
“คยูจะทำอะไรนะ.......ปล่อยฉันลงเถอะ” คยูฮยอนไม่ฟังเสียงห้ามของคนในอ้อมอก แขนแกร่งยังทำหน้าที่ได้ดี พร้อมกับขายาวที่ก้าวไปเรื่อยๆ
“คยู.........นายเปื้อนแล้วนะ.....วางฉันลงเถอะ”
“.................” ไม่มีคำตอบใดๆให้ร่างบาง คยูฮยอนยังคงนิ่งเงียบ มีเพียงหันมาสบตาคนรักตัวเล็กบ้างเล็กน้อย ก่อนจะเดินต่อไปและหยุดลงที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆ พร้อมกับวางคนรักลงบนเก้าอี้ที่ใช้สำหรับนั่งรอเมล์
“คยู.......ขอโทษนะ.......”
“..................”
“พูดอะไรหน่อยสิ่.........ฉันไม่ชอบแบบนี้เลยนะ”
“..................”
“ ขอโทษที่ฉันสร้างปัญหา....จะโกรธฉันก็ไม่ว่า.....แต่อย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ยคยู.....อึก...อื่อ....ฉันขอร้อง.......อย่าทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน...อื่อ...”น้ำสีใสกำลังไหลออกมาอีกครั้งหลังจากเหือดหายไปได้ไม่นาน
ซองมินก้มหน้าลงปล่อยให้น้ำตาไหลลงไปเรื่อย อย่างไม่คิดที่จะเช็ดมันออกแต่อย่างใด ตอนนี้มีเพียงความเสียใจและผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ถ้าการมาที่นี่แล้วเป็นแบบนี้ เขาไม่มาที่นี่คงจะดีกว่า เขาน่าจะนั่งรอ คยูฮยอนอยู่ที่ สถานีขนส่ง หรือไม่เขาก็ไม่ควรมาเหยียบที่โซล ตั้งแต่แรก การรอ คยูอยู่ที่บ้านนอกมันอาจจะดีกว่า
“นายมาที่นี่ได้ไง....ทำไมไม่บอกฉันสักคำ...แล้วมากับใคร.....แล้วทำไมถึงไปนั่งร้องไห้ที่ถนนแบบนั้น…………..อย่าทำให้ฉันเป็นห่วงแบบนี้สิ่ซองมิน.....ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะ”
หลังจากที่ทนมานาน ร่างสูงก็ระเบิดอารมณ์ออกมา พร้อมกับคำพูดที่อัดอั้นไว้นาน
“...........” ซองมินทำได้เพียงแค่มองร่างสูงด้วยแววตาสำนึกผิด
คยูฮยอนเองก็เริ่มใจเย็นลงบ้างแล้ว
ณ ตอนนี้ สายตาคมจ้องมองร่างบางเช่นกัน ก่อนจะนั่งขุกเข่ากับพื้นตรงหน้าคนรัก พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมไปสัมผัสกับแก้มใส
“ฉันห่วงนายมากรู้มั้ย.....อย่าทำแบบนี้อีกนะ......แล้วก็หยุดร้องไห้สักที” ไม่ใช่เพียงแค่คำขอ แต่มือหนายังทำหน้าที่ช่วยเช็ดน้ำสีใส ออกจากใบหน้าหวานและแก้มสีใสอีกด้วย
“คยู.......”
เมื่อคนตัวเล็กของเขาเลิกร้องไห้แล้ว สายตาคมก็เริ่มสำรวจหารอยบอบช้ำ และบาดแผลอื่นๆตามร่างกายของร่างบาง
จนสะดุดเข้ากับร้องเท้าผ้าใบที่ซองมินยังถือไว้ไม่ยอมปล่อย เขาจำได้ดีว่ามันเป็นของที่เขาซื้อให้ร่างเล็กเมื่อหลายปีก่อน
“ยังใส่อยู่อีกหรอ...มันไม่คับรึไง หลายปีแล้วนะ”
เสียงทุ่มนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งไปให้ซองมิน ก่อนที่ คยูฮยอนจะหยิบร้องเท้าออกมาจากมือบาง แล้วมองสิ่งที่อยู่ในมืออย่างพินิจวิเคราะห์
“ฉันน่าจะซื้อที่มันดีๆกว่านี้ให้นาย........เพื่อมันจะปกป้องนายแทนฉันได้บ้าง”
ไม่เพียงแต่พูดเปล่าร่างสูงวางรองเท้าในมือไว้ที่พื้นข้างๆ ก่อนจะสัมผัสเท้าเล็ก ที่เต็มไปด้วยแผลถลอกเบาๆก่อนจะยกเท้าเล็กนั้นขึ้นมาวางไว้ที่หน้าขา
“ ถ้ามันจะทำให้แผลของนายน้อยลงบางก็คงดี”
“คยู........ปล่อยเถอะเท้าฉันสกปรก......มือนายจะเลอะนะ”
ซองมินได้แต่ร้องห้ามเบาๆ พร้อมกับแก้มใสที่ขึ้นสีด้วยความอายจากการกระทำและคำพูดของคนรัก
“ฉันไม่เคยคิดว่านายสกปรกเลยนะ...ซองมิน เพราะว่านายน่ารัก .....และฉันก็รักนาย”
คำบอกรักที่ดังก้องอยู่ในหูและโสตประสาทยังคงไม่จากหาย จมูกโด่งและริมฝีปากหยัก ก็กดลงและจมไปกับผิวขาวเนียนที่บริเวณหลังเท้า
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนรักเพื่อให้ร่างบางรู้ว่าเขาจริงจังกับคำพูดมากแค่ไหน
“รักมาก.........มากจนมองข้ามสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวนาย”
การกระทำของคยูฮยอนมันทำให้ร่างเล็กอดที่จะดีใจไม่ได้ ความเขินอายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แก้มใสแดงขึ้นจนดูน่ากลัวจนถึงใบหู ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มอย่างน่ารัก ตอนนี้ความสุขยิ่งกว่าครั้งใดๆ
“คนมองเต็มเลย......คยู”
“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าใครจะมองยังไง.......ในเมื่อตอนนี้นายอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว.......ก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจไปกว่านายอีกแล้วซองมิน”
สายตาที่จ้องมองกันอยู่นานจนความรู้สึกต่างๆมากมายเกิดขึ้นภายในจิตใจ ใบหน้าคมค่อยๆเคลื่อนที่ไปใกล้ดวงหน้าหวานมากขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจร้อนก็เริ่มเป่ารดใบหน้าของกันและกัน
เปลือกตาบางหรี่ลงตามอารมณ์ ปลายจมูกแตะกันอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน เพราะเสียงเรียกจากใคร บางคน
“คยูโว้ย.....นี่มันหน้า มหาลัยนะ”
“คิบอม..ดงเฮ..มาทำไมเนี้ย” คยูฮยอนเอ่ยถามเพื่อนของตนก่อนที่จะลุกขึ้นมาจากพื้น
“ก็มาตามไปสอบไง....ได้เวลาแล้วนะ” เป็นหนุ่มแก้มแตกที่พูดขึ้น
“ซองมินใช่รึเปล่า......น่ารักจังเลยนะ......น่ารักกว่าในรูปอีก...แต่เอ๋....ผมยาวขึ้นเยอะเลยนะ อย่างกับเด็กผู้หญิงแหนะ” ร่างเล็กอีกคนก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่หยุดเช่นกัน
“รู้จักฉันด้วยหรอ”
“อืม...รู้จักสิ่..คยูมันพูดนายถึงบ่อยๆ....”
“เลิกพูดมากสักทีดงเฮ....... คิบอม ฉันว่าจะไม่ไปสอบ....ไม่อยากปล่อยซองมินไว้คนเดียว”
คยูฮยอนพูดด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะหันหน้ามามองคนรักที่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆเขา
“ฉันไม่เป็นไร....นายไปสอบเถอะ ฉันจะรออยู่ตรงนี้”
“ไม่เอาอะ......เดี๋ยวก็มีคนมาเกาะแกะนายอีก.....”
“ถ้าฉันไม่เล่นด้วยเดี๋ยวพวกเขาก็เลิกยุ่งเองแหละ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็มอมแมมทั้งตัว...ใครจะมาสนใจ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ.....แต่ฉันก็ไม่ชอบอยู่ดี…”
“คยู...........ไม่มีเหตุผลเลย.....”
“ฉันหรอไม่มีเหตุผล.....มีเป็นล้านแปดเลยเหตุผลของฉัน”
“เลิกเถียงกันสักที...เดี๋ยวฉันจะดูแลซองมินให้เอง...นายกับ คิบอมไปสอบเถอะ”
ดงเฮที่ทนไม่ไหวกับคู่รักคู่นี้เขาจึงเลือกวิธีที่ดีที่สุดออกมาใช้
“เอาอย่างนี้แหละ.....แกก็ไปสอบได้แล้ว คยูฮยอน” ยังไม่ทันพูดจบ คิบอมก็ดันหลัง คยูฮยอนให้เดินไปข้างหน้าเสียแล้ว
“เอ่อๆๆ.....ฝากซองมิน ด้วยนะดงเฮ” คยูฮยอนหันมาพูดกับเพื่อนก่อนจะเดินไปตรงหน้า ซองมิน
ริมฝีปากหนากดทับริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบา ความหอมหวานที่ไม่ได้เชยชิมมานาน ยังส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้เขาอยากเข้าไปค้นหา และสัมผัสที่อ่อนนุ่มของกันและกัน มันทำให้เขาอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้จริงๆ แต่ทำไงได้เขาไม่อาจหยุดเวลาได้ดั่งใจคิด คยูฮยอนผละออกจากร่างเล็ก ก่อนจะยิ้มอย่างสุขใจ
“ดูแลตัวเองด้วยนะ” พูดจบ คยูฮยอนก็ออกเดินไปในทันทีปล่อยให้ซองมินแก้มขึ้นสีระเรื่อจนถึงใบหูอย่างน่ารัก น่าฟัด
“เราก็ไปกันเถอะ”ดงเฮเอ่ยขึ้นเมื่อมองไม่เห็นแผ่นหลังของเพื่อนและคนที่เป็นมากกว่าเพื่อน
“ไปไหนหรอ” ซองมินหยุดการทอดสายตาออกไปแล้วถามขึ้นอย่างสงสัย
“ไปอาบน้ำ...แต่งตัวใหม่ไงล่ะ...เดี๋ยวจะมีอะไรให้ทำอีกเยอะ”
ดงเฮตอบคำถามจนซองมินคลายความสงสัย ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันออกเดินทาง
//อ๊อด!!!!!!.....หมดเวลาทำข้อสอบ....นักศึกษาทุกคนวางปากกาแล้วนำข้อสอบมาส่งที่โต๊ะเดี๋ยวนี้.....//
...............
“......ทำได้ปะวะ ...” คิบอมเอ่ยถามขึ้นเมื่อส่งข้อสอบเสร็จพร้อมกับเดินไปหาคยูฮยอนที่ยืนรออยู่ตรงประตูก่อนจะดินออกไปพร้อมกัน
“ก็พอได้....คิดว่าจะยากกว่านี้...”
“โธ่....ไอ้ขี้โม้.....ติดตัวแดงขึ้นมาจะหัวเราะให้..”
“....ฮึ.ฮึ.ฮึ....ผ่านอยู่แล้ว...กำลังใจมาทั้งทีไม่ผ่านได้ไง..555+”
“อ้อ...ลืมไป....หวานใจอุตส่าห์มาหาถึงนี่..แต่ถามไรอย่างดิ...ซองมินเป็นเด็กชาวไร่จริงหรอวะ.....”
“ทำไม......”
“ก็ดูไม่หมือนชาวไร่.....ถ้าบอกว่าเป็นลูกคุณหนูนะ เชื่อสนิทใจเลย....ไม่เหมือน ดงเฮ..”
“ฉันทำไม......”เสียงเล็กดังขึ้นจากทางด้านหลังอย่างเอาเรื่อง คิบอมจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของใคร ก่อนจะค่อยๆหันกลับไปเพื่อตอบคำถามของคนรัก
“ก็น่ารักไง.....เห่อๆๆ....มาตั้งแต่เมื่อไร”
“ทันได้ยินที่พวกนายคุยกันแหละ....”
“ซองมินละ...” คยูฮยอนเอ่ยถามทันทีที่เขามองไม่เห็นคนตัวเล็กของเขา
“ฉันจะไปห้องน้ำ...เลยให้เขายืนดักรอนายอยู่แถวแถวนี้แหละ....”
“แถวนี้....แล้วอยู่ไหน.....นายทำไมปล่อยซองมินไว้คนเดียว”
“ซองมินเขาโตแล้วนะ.....ไม่ใช่เด็กๆ.......”
“ตรงโน้นเขามุงดูอะไรกัน....”เสียงของ คิบอมที่ดังขึ้นทำให้ทั้ง คยูฮยอน และ ดงเฮ หันไปมองสิ่งที่ คิบอม พูดถึง
“อยู่ในกลุ่มคนมุงพวกนั้นรึเปล่า.....นายก็ไปหาดูสิ” ยังไม่ทันที่ดงเฮจะพูดจบประโยคดี...คยูฮยอนก็เดินไปมองหาคนตัวเล็กของเขาสะก่อน
กลุ่มคนประมาณ 20-30 คน กำลังมุงดูอะไรบางอย่าง พร้อมกับถือกล้องถ่ายรูป และกล้องจากโทรศัพท์มือถือ ไว้ในมือกำลังเก็บภาพตรงหน้าของพวกเขาเหล่านั้น
สายตาคมก็มองหาคนรักของตัวเองไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งที่คนเหล่านั้นมุงดูกันแม้แต่น้อย แต่แล้วเขาก็สะดุดเข้ากับภาพที่กำลังแสดงอยู่ในมือถือของหนึ่งในคนที่มุงดู
เป็นภาพของเด็กสาวผิวขาวเนียนละเอียด ผมที่ยาวปะบ่าถูกถักให้เป็นเปียก้างปลาสองข้าง อยู่ในเสื้อหนังแขนกุดสีดำคอเสื้อผ่าลึกจนแทบสะกดทุกสายตา และกางเกงขาสั้นหนังเงาวาว ที่แนบลำตัว
พร้อมด้วยถุงหน่อง ตาข่ายสีดำ ในมือถือถุงกระดาษใบใหญ่ปกปิดขาขาวจากเลนส์กล้องและสายตา ที่มองมา กำลังทำหน้ามึนๆยืนอยู่ตรงระเบียง ซึ่งห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าวเดิน....
สายตาคมละจากภาพในโทรศัพท์ทันทีพร้อมกับเงยหน้ามองสิ่งที่เขาเพิ่งเห็นผ่านโทรศัพท์ด้วยตาของเขาเอง
“ซองมิน.....” เมื่อบุคคลตรงหน้าคือคนที่เขากำลังตามหา....เสียงเรียกชื่อคนตัวเล็กไม่ดังนักแต่ก็ทำให้คนรักของเขาหันมามองได้ทันที
ขายาวก้าวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่อไปให้ถึงคนรักร่างเล็กให้เร็วที่สุด มือหนาดึงร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสื้อสูทที่ร่างสูงสวมอยู่ ก็ถูกดึงให้คลุมร่างบางด้วยเช่นกัน
ก่อนที่จะมีแขนแกร่งโอบรัดร่างบางอีกชั้น
“ คยู .......” หลังจากถูกเป็นเป้าสายตา และเลนส์กล้องอยู่สักพัก ซองมินก็อุ่นใจขึ้นเมื่อเขาเจอ คยูฮยอนสักที ภายใต้เสื้อตัวเดียวกัน กลิ่นหอมของคนรัก และอ้อมกอดที่ คยูฮยอนมอบให้ มันทำให้ซองมินรู้สึกปลอดภัย และเริ่มใจเต้นแรง แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่คยูกอดเขาแบบนี้ แต่เขาก็ยังดีใจเหมือนครั้งแรกที่ได้รับมันจากคยูฮยอน
“ทำไมใส่ชุดแบบนี้....ไปเอามาจากไหน”คยูฮยอนถามขึ้นทันทีหลังจากที่คิดว่า ปิดร่างบางออกจาก สายตาหลายคู่ได้แล้ว
“ดะ...ดงเฮบอกให้ใส่ชุดนี้”
“ดงเฮ....”
“อืม....ดงเฮบอกว่า คยูชอบแบบนี้....แล้วก็คะยั้นคะยอให้ฉันใส่ให้ได้......”
“นายก็เลยใส่มา....”
“ อืม...” ซองมินตอบด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนจะก้มหน้าลงซบลงกับอกแกร่งอีกครั้ง
สายตาคมละจากร่างบางเพียงครู่ ก่อนจะมองออกไปเห็นเพื่อนตัวดียืนยิ้มและโบกไม้โบกมือให้เขาอย่างร่าเริง ก่อนจะตะโกนเสียงดังให้เขาได้ยิน
“ชอบมั้ย!!!!....คยูฮยอน!!!!....”
“ลีดงเฮ!!!!!!!.........” ร่างสูงตะโกนกลับไปเช่นกัน พร้อมกับทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะหันไปตวาดพวกตากล้องทั้งมืออาชีพ และมือสมัคเล่นที่ยัง ถ่ายรูปคนตัวเล็กของเขาไม่หยุด
“เจ้าพวกบ้า!!!!....หยุดถ่ายเดี๋ยวนี้นะ.....”
……………………
“ปล่อยได้แล้วคยู...คนพวกนั้นไปหมดแล้ว” หลังจากเกิดการสลายการชุมนุม.....จนไม่หลือใครแล้วที่บริเวณนี้นอกจากเขา 2 คน ร่างบางจึงเอ่ยทำลายความเงียบ หลังจากที่ยืนเงียบกันมานาน
“จริงๆอยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ...” คยูฮยอนเอ่นขึ้นพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“แต่ฉันเริ่มร้อนแล้วนะ....ปล่อยเถอะ........เอ่อนี่....ฉันเอาเสื้อมาให้เปลี่ยนด้วยนะ” ซองมินพูดขึ้นพร้อมกับดันออกแกร่งให้ออกห่างก่อนจะยกถุงกระดาษที่ถือไว้ขึ้นมาให้คยูฮยอนดู
“เสื้อ.....”
“ก็เสื้อสูทของคยู ที่ทำเปื้อนตอนอุ้มฉันไง.....ฉันเลยยื้มสูทของคิบอมจาก ดงเฮมาให้นายก่อน”
“ งั้นก็ดีเลย....นายเอามาใส่สะ”
“ทำไมละ…..ฉันเอามาให้คยูนะ”
“คิดจะเดินออกไปอย่างงี้หรอ.......ฉันไม่ยอมหรอกนะ” คยูฮยอนจัดการหยิบเสื้อในถุงออกมาพร้อมกับคลุมให้กับร่างบาง ก่อนจะดึงให้ซองมินเดินตามออกไป
“เรากำลังจะไปไหนกัน...”
“ กลับห้องฉันนะสิ.....ตอนแรกว่าจะพานายไปกินข้าวข้างนอก...แต่ฉันเปลี่ยนใจแล้วไว้พรุ่งนี้แล้วกัน”
“พรุ่งนี้ฉันก็ต้องกลับแล้ว....ขอแม่มาแค่ 2 วัน”
“กลับช้าสักวันแม่นายไม่ว่าหรอก...อยู่กับฉันอีกวันนะ...ซองมิน”
“ถ้าไม่รักษาสัญญา....ต่อไปแม่ต้องไม่ให้มาอีกแน่ๆ”
“เฮ้ย..........งั้นก็รีบไปห้องด่วนเลย...”
“ทำไมต้องรีบละ........มีธุระอีกหรอ”
“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง........ฮึฮึฮึ....เร็วๆเข้า”
................................
// แอ๊ด!!!........//
“ ห้องสวยจังเลย....คยู…….แต่ทำไมมัน ดูไม่เป็นระเบียบเลยละ เรียกว่า รก เลยนะเนี้ย ”
เท้าเล็กก้าวย่างอย่างยากลำบาก ทั้งเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ของใช้ที่ไม่ยอมเก็บให้เป็นที่ ซองขนม กล่องอาหาร กระป๋องเบียร์ ขวดน้ำ ต่างๆสารพัดที่จะนอนกระจายอยู่ทั่วไปบนพื้นห้อง ไม่เว้นแม้กระทั้งหนังสือ
แต่ที่เรียกความสนใจของซองมินได้มากที่สุดคงจะเป็นหนังสือที่มีรูปสาวสวยในชุดว่ายน้ำขึ้นปกอยู่
“ช่วงสอบก็อย่างนี้แหละ.....ยุ่งวุ่นวายไปหมด....”ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับถือแก้วน้ำออกมาจากห้องครัว
“ คยูฮยอน.......นี่อะไร......นายอ่านไอ้นี้ก่อนสอบด้วยหรอ”ซองมินพูดขึ้นพร้อมกับชูหนังสือที่เพิ่งหยิบขึ้นมาจากพื้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
“อ้อ.........ก็แค่แฟร์ชั่นชุดว่ายน้ำไม่มีอะไรหรอก” เพียงแวบแรกที่เห็นหน้าปกหนังสือร่างสูง วางแก้วน้ำลงทันทีพร้อมกับตรงรี่หาร่างบาง เพื่อหวังจะคว้าไอ้หนังสือที่คาดว่าอาจจะสร้างปัญหาให้เขา และอาจเกิดงานเข้าได้ง่ายๆ
แต่ดูเหมือนอะไรมันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อคนตัวเล็กของเขาเปิดด้านในของหนังสือดูและยื่นมาตรงหน้าของเขา
“แฟร์ชั่น...........แต่ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น” ดวงตากลมจ้องมองร่างสูงอย่างจับผิด ก่อนจะปล่อยหนังสือดังกล่าวลงไปตามแรงโน้มถ่วง
“ขะ...ของ....ไอ้คิบอมมัน…..มะ..ไม่ใช่ของ ฉะ.ฉันหรอก”
“คิบอมก็อยู่กับดงเฮไม่ใช่หรอ......”
“ขะ....ของเพื่อน ของเพื่อน คิบอมมัน…….”
“.........................”
“โธ่.................ซองมิน” เมื่อเห็นว่าร่างบางยังไม่ยอมพูดอะไร....และยังจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่แข็งกร้าว แขนแกร่งก็เข้าทำงานทันที โดยการโอบกอดร่างบางอย่างแผ่วเบา พร้อมกับคำพูดที่ฟังแล้วชวนให้หวั่นไหว
“ก็คยูอยู่คนเดียวนิ่........คิดถึงซองมินให้ทำไงละ……ซองมินอย่าโกรธ คยูเลยนะ......นะครับ......นา......”
“ ....อุ๊บ.....คิ..คิ..คิ..หึๆๆ ฮ่าๆๆๆ...”
“ซองมินหัวเราะอะไร....”
“ ก็หัวเราะนายไง.....หมดมุขแถแล้วหรอ...ถึงใช้วิธีนี้นะ”
“ซองมินไม่โกรธหรอ.....”
“ไม่หรอก......ก็พอจะเข้าใจอยู่.........ที่ห้องซองจิน(น้องชายของพี่ซองมินนะคะ)มีเต็มเลย”
“จริงอะ.....แล้วนายแอบดูมั้งรึเปล่า”
“ไม่เห็นต้องแอบดูเลย.......เปิดดูเฉยๆก็ไม่มีใครว่าอะไรนิ”
“เฮ้ย!!!......ดูได้ไง...ห้ามดูอีกนะซองมิน”
“ก็แค่ดูผ่านๆ........ไม่ได้หื่นเหมือนนายหรอกนะ..”
“................”
“รู้อะไรมั้ยซองมิน.........” คำพูดและสายตาที่เปลี่ยนไป....มันทำให้ซองมินรู้ได้ว่าอะไรบางอย่างมันกำลังจะเกิดขึ้น
และก็จริงอย่างที่เขาคิด แผ่นหลังบางถูกดันให้ติดกับผนังห้องนั่งเล่น พร้อมกับมือหนาทำหน้าที่ถอดเสื้อสูทออกจากคนตัวเล็ก เหลือไว้เพียงร่างบางกับชุดหนังแนบลำตัว
“อะ....อะไรละ....”
“นายรู้มั้ยว่าชุดที่นายใส่อยู่นี้มันชุดอะไร....”เสียงที่เริ่มแหบพร่าดังขึ้นเบาๆที่ใบหูเล็ก
“ชะ..ชุดอะไรละ”
“มันเป็นชุดที่ดงเฮใช้ใส่เวลาจะยั่วคิบอม...”
“.........................”
“จริงๆฉันก็ชอบนะ.....แต่จะชอบมากกว่านี้ถ้านายใส่เฉพาะตอนที่เราอยู่ด้วยกันแค่ 2 คน”
“.............”
“แล้วทำไมนายถึงมาที่นี่ละ....” ร่างหนาเริ่มกดทับและเบียดเสียดร่างเล็กจนไม่มีที่ว่างให้อากาศไหลผ่าน นิ้วเรียวลูบไล้ริมฝีปากบางเบาๆก่อนจะเกลี่ยแก้มใสเล่นอย่างเพลิดเพลิน
“ฉะ..ฉันมาที่นี่...กะ..ก็เพราะว่า....................คยู.......”
“....หืม....” ร่างสูงตอบรับร่างเล็กก่อนจะสบตากับคนรักเพื่อรอฟังสิ่งที่คนรักของเขากำลังจะเอ่ย
“..ฉันคิดถึงนาย.........”
...............................................
ริมฝีปากหนากดทับเรียวปากบางทันที พร้อมกับบดขยี้และดูดดึงเรียวปากบางไปตามอารมณ์ที่กำลังเพิ่มขึ้น ลิ้นร้อนเลียไล้ไปตามปากบาง ฟันคมขบกัดริมฝีปากล่างของคนตัวเล็กพร้อมดูดกลืนเข้าไปในปาก ก่อนจะส่งลิ้นร้อน เข้าไปกวาดหาความหอมหวานที่เขาเป็นคนเดียวที่ได้ครอบครอง
มือหนาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างบาง ก่อนจะสอดเข้าไปใต้ร่มผ้า ลากผ่านผิวขาวเนียนละเอียด ความร้อนจากฝ่ามือหนาเริ่มทำให้ร่างบางเสียวซ่านก่อนที่เสื้อหนังตัวหนาจะถูกปลดออกไปอย่างง่ายดาย
เหลือไว้เพียง หน้าอกราบขาวนวนเนียน ที่สวยงามดั่ง การสร้างสรรค์มาเป็นอย่างดี ประดับไปด้วยจุดนูนต่ำสีชมพูระเรื่อ สองจุด กำลังขยับขึ้นลงอย่างแรงจากการหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
ลิ้นหนาก็ยังคงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เกี่ยวกระหวัด และไล่ต้อนลิ้นเล็กอย่างโหยหา ลิ้นบางก็ตอบสนองได้ดีเช่นกับ สัมผัสที่ไม่ได้รับจากคนรักมานาน มันทำให้เขาเริ่มสนุกไปกับการหยอกล้อของคนรัก
ลิ้นเล็กเริ่มดุนดันลิ้นหนาเปรียบเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการต่อสู้ ลิ้นร้อนชื้นผลัดกันเกี่ยวกระตุก และเกี่ยวพันกันแน่นจนจะเป็นเนื้อเดียว ปากหนาดูดดึงลิ้นบางจนแทบจะกลืนกิน น้ำสีใสไหลเหยิ้มออกมาจากโพรงปาก โครงหน้าของทั้งสองถูกปรับให้ได้องศาเพื่อการเข้ากันให้ได้มากขึ้น
อารมณ์ที่เริ่มคลุกกรุ่น และอุณหภูมิที่เพิ่งขึ้นมันทำให้เขาทั้งคู่เริ่มคุมสติของตัวเองไม่อยู่ มือบางก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อของคนรักพร้อมกับ รูปไล้หน้าอกแร่งอย่างห่วงแหน โดยไม่รู้ตัว
ฝ่ามือหนาลุกหนักขึ้นเรื่อยๆ ปลายนิ้วเรียวสะกิดเบาๆที่จุดนูนต่ำ จนมันทำให้ ซองมินต้องเผลอร้องครางออกมา ร่างกายกระตุกเกรงตัว นิ้วเรียวกดจิกอกแกร่งเพื่อระบายอารมณ์
“อ๊ะ…......อา~.........คยู~…..”
เสียงครางหวานหูของร่างเล็กทำให้เขาพอใจไม่น้อย คยูฮยอนยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ลิ้นหนายังไล่เล็ม และเกี่ยวกระหวัด จุดนูนต่ำของซองมินไม่หยุดหย่อน
เรียวแรงที่เคยมีหายไปหมด แค่แรงที่จะทรงตัวให้ยืนอยู่ก็มีเหลือน้อยเต็มที แขนแกร่งทั้งสองข้างนี้ช่วยเป็นที่ยึดเกาะให้ซองมินได้ดีที่เดียว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นที่ระบายอารมณ์
นิ้วเล็กจิกลงที่ต้นแขนของร่างสูง เม็ดเหงื่อผรุดขึ้นทุกสัดส่วนของร่างกาย หัวใจเต้นแรงเลือดในร่างกายสูบฉีดอย่างบ้าครั่ง
มือหนาเค้นคลึง หน้าอกบางอย่างหลงใหล ร่างบางแอ่นอกตอบรับสัมผัสสุดสยิวที่คนรักมอบให้ ก่อนที่ปากหนาจะเข้าครอบครองจุดนูนต่ำ ขบดึงจุดเล็กๆนั้นจนร่างบางร้องไม่เป็น ภาษา
“อือ......อื่อ……อื๊อ~~~~.”
“ ร้องออกมาอีกสิ่...ซองมิน.....ฉันอยากได้ยินเสียงนาย”
ความต้องการที่มีไม่สิ้นสุด ลิ้นหนาลากไล้จาก ติ่งไตสีชมพูที่แข็งขืน ไปจนถึงลำคอขาวระหงส์ ใบหน้าหวานเชิดขึ้นอย่างรู้งาน ปล่อยให้ จมูกโด่งฝังตัวตามผิวกาย และริมฝีปากหนาดูดดึง ขบกัด และทำรอยรัก ที่ผิวขาวจนกลายเป็นงานศิลปะบนเรื่อนร่าง
“..อ้า~~~~%%**--//@3333###....คยู~~~...”
เสื้อเชิดตัวใหญ่ถอดออกโดยฝีมือเจ้าตัวเอง เผยให้เห็นอกแกร่งได้เต็มตาที่พร้อมทำหน้าที่ ปกป้อง และโอบกอดร่างบาง ฝ่ามือหนาลูบไล้ร่างสัมผัสผิวกายที่ร้อนระอุของคนรักอย่างหลงใหล ก่อนจะปลดตะขอกางเกงของร่างบางออกด้วยความอารมณ์ที่ใครก็ไม่อาจห้ามอยู่
กางเกงตัวบางไหลลงไปกองกับพื้นในทันที มือหนาวางไว้ที่สีข้างของคนรัก ลูบไล้สะโพกมนอย่างรักใคร่ ก่อนจะลูบเอาถุงหน่องตาข่ายออกเผยให้เห็นขาขาวและป้อมปราการชิ้นสุดท้ายของคนรัก
ปากหยักไล่จูบเรื่อยลงไป ผ่าน จุดนูนต่ำ หน้าท้องแบนราบ และต่ำลงไปอีกจากสะดือสวย โคนขาที่ถูกฝ่ามือพาดผ่าน สั่นด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหวตาม มือหนาถอดถุงหน่องพ้นจากเท้าเล็กได้
พอดีกับใบหน้าคมที่อยู่ตรงกับส่วนอ่อนไหวของคนรัก ป้อมปราการสีขาวถูกกระชากออกจนร่างบางตั้งตัวไม่ทัน ปากหนาของ คยูฮยอน เข้าครอบครอง แกนกายของซองมินที่กำลังสั่นระริก และเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นหนา เลีย ไล้ เหมือนกับว่าเป็นของหวานที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ฟันคมขูดเข้ากับแกนกายไม่เบานัก จนร่างเล็กร้องออกมาอย่า รันจวนใจ
“อือ....อืม.....อื่อ~.......อา....คะ..คยู....อื๊อ~~~..”
ขาเรียวแทบหมดแรงที่จะยืนหยัด ร่างบางสั่นอย่าอ่อนร้า จากความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของเขาและคนรัก มือบางวางลงที่ไหล่หนาเพื่อพยุงให้ตัวเองยังยืนอยู่ได้
มือหนาก็เค้นคลึงสะโพกมน และลูบไล้ต้นขาขาวไม่ห่าง ริมฝีปากหนาขยับเร็วขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางสั้นสะท้านทั้งตัว บิดเร่าๆอย่างต้องการระบาย สะโพกกลมส่ายไปมาและขยับให้เข้าจังหวะกับคนรักด่านล่าง
นิ้วเรียวเกาะกุมเส้นผมของคนรัก พร้อมกับออกแรงดันให้คนรักเข้าหาแกนกายของเขาให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองอามรณ์ที่กำลังร้อนพล่าน ใบหน้าหวานขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากบางอ้าออกจากกันเพื่อระบายความร้อน เสียงคราง ร้องระงมอย่างไม่สนว่าใครจะได้ยิน ออกมาตามเรียวปากบาง
“คะ...คยู~….อะ.....อื่อ~....อะ....คยู ..ไม่ไหวแล้ว....อะ....อา.อา.....อ้า~……..” ร่างบางกระตุกรับเข้าจังหวะอีกครั้ง ก่อนจะปล่อย น้ำคาวรัก ขาวขุ่นออกมาเต็มโพรงปากคนรัก
คยูฮยอนไม่รอให้เสียเวลา ขายาวถูกเหยียดให้ตรงอีกครั้ง หลังจากลงไปพับงอเพื่อสร้างความสุขให้ร่างเล็ก แขนแกร่งยกร่างบางขึ้นกอด เรียวแขนเล็กก็โอบกอดรอบคอของเขาทันทีพร้อมกับขาขาวที่เกี่ยวพันเอวของคยูฮยอนเอาไว้
ริมฝีปากบางอ้ารับน้ำคาวรักของตัวเองจากปากร่างสูง แต่คงเป็นเพราะน้ำรักที่มีมากเกินไปทำให้ล้นทะลักออกมาไหลไปตามอกบางที่กระเพื้อม ขึ้นลงอย่างรุนแรง ยังไม่ทันที่ซองมินจะกลืนน้ำรักของตัวเองลงคอ นิ้วเรียวใหญ่ก็กวาดเข้ามาในโพรงปากของเขา ตามด้วยจูบที่เร่าร้อนและหิวกระหายมากกว่าครั้งแรก
ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างรุนแรง ต่างฝ่ายต่างดูดกลืนลิ้นหนาของอีกคน ขายาวก็ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายตัวเขา และซองมินไปยังห้องนอน ที่แต่งไปด้วย ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นโทนสีเขียนและขาวเป็นส่วนใหญ่
// ปัง!! //
ประตูห้องถูกปิดลงด้วยฝ่าเท้าของเจ้าของห้องอย่างรีบร้อน แขนแกร่งทั้งสองข้างที่ทำหน้าที่โอบอุ้มสะโพกมน พร้อมทั้ง บีบเค้นไปพร้อมกัน ใน ขณะ ที่ซองมินกำลังหลงอยู่ในรสจูบอันเร่าร้อนที่คยูฮยอนเป็นคนสร้างให้
นิ้วเรียวที่ยังชุ่มน้ำรักของคนรักก็ลากวนที่ช่องทางรักสีหวานที่คับแคบของซองมินอย่างแผ่วเบา ก่อนจะลอบเข้าไปโดยที่ซองมินไม่ทันตั้งตัว
“อ๊ะ.......คะ..คยู~….อื่อ..... ....อืม...” เพียงนิ้วแรกที่เข้าไปสัมผัสภายในช่องทางรัก มันก็ทำให้คยูฮยอนแทบคลั่ง ช่องทางร้กที่เต้นตุ๊บๆกำลัง บีบรัดนิ้วเขา อย่างสุดกำลัง แขนเล็กโอบรัดรอบคอคยูฮยอนไว้แน่นขึ้น หน้าอกบางเบียดเสียดอกแกร่งจนไม่มีที่ว่างของอากาศ
นิ้วเรียวที่เพิ่มจำนวนและความเร็วที่เพิ่มขึ้นเป็นจังหวะ ส่งผลให้ร่างบางถูไถตัวไปกับร่างสูง แกนกายที่ถูกปลดปล่อยไปแล้วกำลังแข็งขืนขึ้นอีกครั้งและสีเข้ากับหน้าท้องของคนรักอยู่ไม่ห่าง จนเรียกเสียงครางได้จากคนทั้งคู่
“อื้อ.....อื๊อ....”
“อืม....อ่า......ซองมิน.........พร้อมนะ” ร่างบางเพียงแค่พยักหน้าเบาเบา ก่อนจะถูกวางไปบนเตียงพร้อมกับร่างสูงที่ตามขึ้นคร่อมทันที
คยูฮยอนจัดการกับกางเกงที่ยังคาราคาซังออกไปก่อนจะเขี่ยมันไปบนพื้นห้อง
“เบาๆนะคยู....”
“อืม.........” แกนกายที่ใหญ่โต กำลังเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆและสั้นอย่างเห็นได้ชัด
สายตาคมทอดมองช่องทางรักที่เพิ่งผ่านการเบิกทางมาแล้ว กำลังเต้นอย่างบ้าคลั่งเหมือนกำลังเชิญชวนให้เขาเขาไปสัมผัสโดยเร็ว
ริมฝีปากจูบเบาๆที่ช่องทางคับแคบที่เขาไม่ได้เข้ามาสัมผัสนานอย่างคิดถึงและรักใคร่ แท่งร้อนที่ใหญ่โตพร้อมแล้วสำหรับการเพิ่มรักเติมสุขให้กันละกัน
“อื่อ.....คยู.....ฉันเจ็บ....”
“ยังเจ็บอยู่อีกหรอ....นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วนะครับ......” คำพูดหวานหูถูกกระซิบเข้าเบาๆที่ใบหูเล็ก ริมฝีปากหนาก็จูบพรมที่เปลือกตาบาง
“..................”
“อดทนหน่อยนะครับ......คนดี.........” จูบที่แสนหวานเหมือนการปลอบประโลมให้ร่างเล็กหลงลืมความเจ็บปวด ก่อนที่แกนร้อนจะเข้าไปรวดเดียวจนมิดกาย
“เฮือก!!!!..............คยู~....” นิ้วเล็กจิกฝังไปบนแผ่นหลังของ คยูฮยอน ใบหน้าหวานเหยเก เชิดขึ้น ก่อนจะส่ายไปมาเพื่อระบายความเจ็บแสบ
ซองมินรับรู้ได้ทันทีที่แท่งเนื้อขนาดใหญ่กำลังพยายามแทรกตัวเข้ามาในร่างกายของเขา แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่สิ่งนี้ลุกล้ำมาในตัวเขา แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บแสบได้ทุกครั้งไป
“อ้า....~…….ซะ..ซองมิน....อ่า.....ผ่อนคลายนะ.....ซองมินรัดแน่นเกินไปนะ คยูขยับไม่ได้เลย.....” มือหนาลูบไล้ไปมาเบาๆที่ต้นขาซองมิน ก่อนจะขยับขาร่างบางให้อ้าออกมากขึ้น พร้อมกับรอให้ช่องทางที่คับแคบของซองมิน ปรับตัวรับสภาพให้ชินกับการที่มีเขาอยู่ด้วยในร่างนี้
“ดีขึ้นมั้ย.....”
“อืม.........” เมื่อสิ้นประโยคของคนรัก กายหนาก็เริ่มขยับทันที แม้ช่องทางคับแคบของซองมินที่ยังรัดเขาอยู่มาก จนเขาแทบคลั่งและอาจควบคลุมตัวเองไม่ให้รุนแรงกับคนตัวเล็กของเขาได้แต่ คยูฮยอนก็ค่อยๆเร่งจังหวะรักขึ้นเรื่อยๆ
“คะ...คยู.....อือ....อ๊า~….อื๊อ.......” ความเจ็บแสบในตอนแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน และสุขสม สะโพกมนส่ายไปมา และขยับรับเข้ากับจังหวะของคยูฮยอน และช่องทางรักที่ตอดรัดเขาได้เป็นอย่างดี
“อืม......อือ.....อื้อ.......อื๊อ~…….ซองมิน....ดีมาก...อื๊อ..” เสียงครางดังเป็นระยะไม่ขาดสาย บ่งบอกให้รู้ว่า คนทั้งคู่ กำลังอยู่ในภวังค์แห่งห่วงอารมณ์ของความต้องการ สันดานดิบที่มีอยู่ในตัวก็ถูกปลุกขึ้น ร่างหนาเริ่มใส่แรงถาโถมไปที่ร่างบาง
แรงกระแทกที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ซองมินตกใจไม่น้อย แต่ก็ยังพยายามช่วยขยับสะโพกรับความสุขที่รุนแรงขึ้นจากคนรัก
“คะ...คยู~……..อะ.....อ๊า.......อื้อ......อา...อา...อื๊ม..อ้า~.....”
“ อา.~……..อืม.....ซองมิน....ดีมากเลย.......อ่า.....อ้า ~........”
ความเสียวซ่านที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ย่อมทำให้ได้ยินเสียงร้องดังมากขึ้น เล็บบางข่วนไปทั่วแผ่นหลังของ คยูฮยอนเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับอย่างต่อเนื้องและเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด
เสียงเนื้อกายที่กระทบกันอย่างรุนแรง เสียงแหบพร่าที่ครางอยู่เป็นระยะ และเสียงครางหวานหูของคนตัวเล็กที่ดังระงบอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ห้องนี้ไม่เงียบและกลายเป็นคืนวันที่แสนสุขของคนทั้งคู่
ร่างเปลือยเปล่า บิดเร่าๆไปมา ฝ่ามือบางขยุ้มผ้าปูเตียงจนยับยู้ยี่ ก่อนจะเอ่ยบอกกับคนรักด้านบน
“ ไม่ไหวแล้ว...อะ.....คะ....คยู~.......อะ......อื่อ~”
“อ่า.......อีกนิดเดียว........อะ.... อ้า~.......อ่า~.........”
ร่างหนากระแทกกายใส่ร่างเล็กแรงขึ้นและเร็วขึ้นเพื่อจะตามซองมินไปให้ถึงฝั่งฝัน.....
“อะ....อื่อ....คยู~.....อ้า~~......อือ......”
“ซองมิน…..อ่า......อ๊า~~~~……อืม...อือ….”
ปลายเท้าเล็กจิกลงกับเตียงหนา อกบางแอ่นขึ้นรับเอาอาศครั้งสุดท้าย ร่างกายเกร็งกระตุ้นอีกครั้งก่อนจะปล่อยน้ำคาวรักใส่หน้าท้องของคยูฮยอน ช่องทางด้านล่างก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำคาวรักของคยูฮยอนเช่นกัน หลังจากซองมินปลดปล่อยได้ไม่นาน
“อ้า......เยี่ยมเลย............ซองมิน........เก่งมากครับคนดีของคยู.....”
“อื่อ.......”
ใบหน้าหวานเงยขึ้นจ้องมองหน้าคนรัก ที่แสดงออกถึงความสุขไม่แพ้กันกับเขา ก่อนดึงใบหน้าคมมาใกล้พร้อมกับกดจูบอย่างนุ่มนวล
คยูฮยนยิ้มรับให้กับความน่ารักของคนรัก และ ผลงานของตัวเองที่ทำให้ทั้งเขาและซองมินเต็มอิ๋มกับความสุขที่เขาทั้งคู่มอบให้กัน ก่อนจะเอนตัวลงนอนข้างคนรักร่างบาง และกอดคนตัวเล็กของเขาไว้ในอ้อมอก
“คยู.....เห็นพระจันทร์ที่หน้าต่างห้องนายมั้ย......สวยดีเนอะ”
“อืม.....ก็สวยดี......แต่ฉันว่านายสวยกว่าสวยอีก....”
“คิคิ........จะได้เห็นพระจันทร์สวยแบบนี้กับนายอีกมั้ยนะ...”
“...แต่ฉันอยากเห็นนายอยู่กับฉันที่นี่มากกว่า......”
“.........................”
“.........................”
“นอนพักผ่อนเถอะ.........เดียวพรุ่งนี้คยูไปส่ง”
“อืม...”
ริมฝีปากหนากดจูบเบาๆที่หน้าผากมน แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้คนตัวเล็กเข้ามารับความอบอุ่นจากเขาให้มากขึ้น ก่อนจะปิดเปลือกตาเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมคนรัก
“ฝันดีนะ”
............................................
............... 3 เดือน ผ่านไป..........
“ง่วงนอนรึยัง.......”
//ยังเลย.......แล้วคยูละ.....ง่วงนอนรึยัง//
“ ยัง..........ยังคิดถึงนายอยู่เลย.......”
“ซองมิน.........”
//หืม..........//
“เมื่อไรนายจะมาหาฉันอีก.........”
//ก็อาจจะเป็นเร็วๆนี้..........ฉันก็เริ่มขอแม่บ้างแล้ว//
“................ซองมิน...............”
//.....................//
“วันนี้ฉันก็ยังรักซองมินนะ........”
//แล้วพรุ่งนี้ละ....//
“ก็ยังรักอยู่..........”
//แล้วถ้า อีก 5 วันละ.....//
“ฉันก็จะหยุดรักนาย...............”
//………………………….//
“สัก 5 วิ.....แล้วก็กลับไปรักนายอีก”
//...บ้า........คยู..นายอยู่ที่ห้องรึเปล่า//
“อยู่สิ่....ทำไม....มีอะไรรึเปล่า”
//พระจันท์คืนนี้สวยเหมือน ตอนที่ฉันมองเห็นจากหน้าต่างห้องนายเลย ลองออกมาดูสิ่ //
“หืม...จริงอะ” คยูฮยอนลุกขึ้นจากเตียงทันทีก่อนจะเดินมาที่หน้าต่าง ไหล่หนาถูกยกขึ้นพร้อมกับศีรษะที่เอนลงเช่นกันเพื่อให้โทรศัพท์ยังคงคาอยู่ที่ใบหู และเพื่อไม่ให้พลาดฟังเสียงหวานๆของคนที่เขารัก
จากนั้นมือหนาและแขนแกร่งก็ช่วยกัน ทำหน้าที่ดันกระจกใสขึ้น....เพื่อให้ศีรษะของเขาสามารถยื่นออกไป และมองหาพระจันทร์ตามที่คนตัวเล็กของเขาบอก
“ไหนอะ...ไม่เห็นมีเลย.....ดวงดาวสักดวงฉันยังหาไม่เห็นเลยซองมิน….”
//เงยหน้ามองมันจะไปเห็นได้ไงล่ะ......ก้มลงมาสิ่// ทั้งๆที่รู้ว่าก้มไปยังไงก็คงจะมองไม่เห็นดวงจันทร์อย่างที่คนตัวเล็กของเขาว่า แต่เขาก็ยังทำตามที่คนตัวเล็กบอกอยู่ดี
// เห็นรึยัง...//
“อืม...ชัดแจ๋วเลย...” สายตาที่ทอดยาวลงไป ใบหน้าหวานที่ขาวกระจ่างใส ราวพระจันทร์ทรงกลด ที่ส่องสว่างในคืนเดือนมืด พร้อมกับดวงตากลมใส ที่แวววาวดั่งดวงดาวที่กำลังทอแสงระยับ
แม้ห้องของเขาจะอยู่สูงเพียงใด แต่รอยยิ้มที่สดใสนั้นเขาก็ยังมองเห็นมันอยู่ดี พร้อมกับโทรศัพท์เครื่องบางที่ยังแนบใบหูอยู่
ขายาวก้าวไวขึ้นเรื่อยๆจนเปลี่ยนเป็นวิ่ง เพียงไม่กี่นาทีเขาก็สามารถลงมาถึงชั้นล่าง โทรศัพท์ฝาพับสีดำถูกพับเก็บใส่กระเป๋า
เสียงลมหายใจที่ดังจนรู้ได้ว่าคนๆนี้ต้องการอากาศมากเพียงใด แต่คงไม่เท่ากับการได้เห็นใบหน้าหวานชัดๆตรงหน้า
“คยู.............ฉันคิดถึงนาย”
“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก....ฉันก็....คิดถึงนาย...ซองมิน”
THE End